ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาท เปิดเช้าวันนี้ (14 พ.ย.) “ไม่เปลี่ยนแปลง” จากช่วงปิดสิ้นวันก่อนที่ระดับ 30.24 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.20- 30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินเริ่มติดแนวต้าน ดัชนี S&P500 ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.1% ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง 5bps ลงมาที่ระดับ 1.88% พร้อมกับราคาทองคำที่ฟื้นตัวขึ้น 0.5% แตะ 1463 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดยประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญ ยังคงเป็นทิศทางการเจรจาการค้า แต่ล่าสุด ทางการจีนยังไม่ตัดสินใจเรื่องปริมาณการซื้อสินค้าภาคเกษตร และการบังคับใช้กฏหมายห้ามถ่ายโอนนวัตกรรมได้
ฝั่งนโยบายการเงิน มีข้อมูลใหม่เล็กน้อยเมื่อนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐเข้าให้แถลงการณ์ต่อสภา แม้โดยรวมนายพาวเวลแจ้งว่าเฟดไม่มีแนวคิดที่จะลดดอกเบี้ยต่อ จนกว่าจะมีข้อมูลใหม่เข้ามากระทบกับเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ตลาดกลับตีความว่าเฟดไม่มีทางขึ้นดอกเบี้ย และยังสามารถลดดอกเบี้ยได้ ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐต้องกลับมาเผชิญกับความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าอีกครั้ง
ฝั่งเงินบาทในวันก่อนปรับตัวลงทันทีที่หลุดแนวรับ 30.30 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ในปัจจุบันกลับมาซื้อขายที่ระดับเดียวกับช่วงก่อนหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และออกกฎเกณฑ์เรื่องเงินทุนไหลออก
“ในวันนี้มองภาพตลาดทุนที่ไม่ได้เปิดรับความเสี่ยง เป็นบวกกับเงินบาทที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยสูง ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าความกังวลจะกลับไปอยู่ฝั่งเงินดอลลาร์ เพราะกำลังมีความเสี่ยงเรื่องการถอดถอนประธานาธิบดีเข้ามากดดัน จึงต้องระมัดระวังว่าเงินดอลลาร์ อาจอ่อนค่าลงได้อย่างรวดเร็ว ถ้าการถอดถอนบานปลายจนนักลงทุนขาดความมั่นใจ” ดร.จิติพลกล่าว