บลจ.โหมโปรโมตขาย LTF โค้งสุดท้าย

แฟ้มภาพ

บลจ.โหมโปรโมตขาย LTF โค้งสุดท้ายก่อนหมดสิทธิภาษี “บลจ.ไทยพาณิชย์” ชูแคมเปญ “1 บาทก็ลงทุนได้” ซื้อผ่านแอปได้หน่วยลงทุน 1 พัน บ. ด้าน “บลจ.ทิสโก้” ชูซื้อ/สับเปลี่ยนเข้ากอง 5 หมื่นบาทรับหน่วยลงทุน 100 บาท ตลท.คาดก่อนสิ้นปีเงินไหลเข้าอีก 3 หมื่นล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สิทธิลดหย่อนภาษีในการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2562 นี้ โดยช่วงโค้งสุดท้ายนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่งมีการทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดให้นักลงทุนในช่วงนี้

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่า ช่วงโค้งสุดท้ายของ LTF นี้ บริษัทได้ทำแคมเปญออกมากระตุ้นให้นักลงทุนที่ยังไม่ได้ซื้อ LTF เข้ามาซื้อส่งท้าย เพื่อลดหย่อนภาษี แต่แคมเปญไม่ได้รุนแรง หรือหวือหวากว่าปีก่อน ๆ มากนัก โดยมุ่งนำเสนอกองทุนที่มีผลดำเนินงานดีให้แก่ลูกค้า และมีแคมเปญ 1 บาทก็ลงทุนได้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน และเกิดนักลงทุนหน้าใหม่ ๆ เช่น กลุ่มนักศึกษา เป็นต้น

“เราก็อยากกระตุ้นให้เกิดการออมมากขึ้นในสังคมไทย โดยการออกแคมเปญต่าง ๆ ก็เป็นการสื่อสารไปยังลูกค้าที่ยังไม่ได้ลงทุน แล้วต้องการลงทุน หรือลูกค้าของที่ลงทุนกับเราอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ซื้อ LTF มากกว่าจะไปดึงลูกค้าจากที่อื่นมา โดยคาดว่าเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาลงทุนใน LTF ปีนี้ น่าจะมากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย เพราะเป็นปีสุดท้าย ซึ่งที่ผ่านมาจะมีเงินไหลเข้ามาลงทุนใน LTF เฉลี่ยประมาณ 3-5 หมื่นล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดราว 20% หรือประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปีนี้ก็คาดว่าเงินจะไหลเข้ามาในระดับเดียวกัน” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ ผู้ที่ลงทุนผ่าน SCB EASY ครั้งแรกตั้งแต่วันนี้-สิ้นปี 2562 จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) คืนมูลค่าสูงสุด 1,000 บาท

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกำลังรอความชัดเจนของรูปแบบการลงทุนในกองทุนใหม่ที่จะมาแทน LTF อยู่ ซึ่งหากมีการประกาศรูปแบบที่ชัดเจน บลจ.ก็พร้อมที่จะบริการจัดการการลงทุนตามกองทุนรูปแบบใหม่ทันที

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย (KAsset) กล่าวว่า จากสภาวะของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยสดใสนัก ส่งผลให้เม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF ยังไหลเข้ามาไม่มาก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงปลายปีที่มักจะเป็นช่วงที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนสูง จะส่งผลให้เม็ดเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนกองทุน LTF ทั้งระบบอยู่ที่กว่า 3 หมื่นล้านบาท

“คนจะเข้ามาซื้อ LTF ช่วงปลายปีนี้มากขึ้นหรือไม่ อาจจะเป็นเรื่องที่ตอบลำบาก บางคนอาจจะมองว่าสภาวะแวดล้อมตลาดดูไม่ค่อยดีมากนัก โดยตลาดปรับตัวลดลงมาจากเดิมที่คาดว่าจะสามารถยืน 1,700-1,800 จุดได้ในช่วงต้นปี หรืออาจจะกังวลว่าตลาดดูไม่ค่อยสร้างความมั่นใจได้ ก็อาจทำให้การลงทุนชะลอลงไป แต่จากที่กองทุน LTF มีการต่ออายุจาก 5 ปี เป็น 7 ปี ทำให้ในปี 2563 เม็ดเงินที่ครบกำหนดอายุไถ่ถอนจะไม่ใช่ทั้ง 100% แต่ส่วนใหญ่จะยังคงค้างอยู่ ดังนั้น ผลกระทบจากการที่เม็ดเงินในระบบจะหายไปนั้น ไม่ควรกังวลมากจนเกินไป” นายวศินกล่าว

ทั้งนี้ รายงานแจ้งว่า ช่วงนี้ค่ายกสิกรไทยโปรโมตให้ลงทุน LTF ผ่านกองทุน KDLTF ซึ่งสามารถซื้อผ่าน K Plus และ K-My Funds ได้

ฟาก บลจ.ทิสโก้ เสนอขายกองทุน LTF ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาว (TISCOLTF) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย โดยกระจายการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและมีอัตราการเติบโตของกำไรที่ดี ใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล (TDLTF) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย โดยกระจายการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ ใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก มีนโยบายปันผล

ทั้งนี้ ได้ทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ซื้อและสับเปลี่ยนเข้ากองทุน LTF ที่ร่วมรายการระหว่าง 2 ก.ย.-30 ธ.ค. 62 ทุก ๆ ยอดซื้อและสับเปลี่ยนเข้ากองทุน 50,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดหุ้นไทยจะมีปัจจัยหนุน ทั้งจากแรงซื้อ LTF และ RMF ที่คาดว่าจะมีเงินไหลเข้ามาราว 3 หมื่นล้านบาท หลังจากตั้งแต่ต้นปีมาก็มีซื้อเข้ามาระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งปกติแรงซื้อทุก ๆ ปีจะมี 5-6 หมื่นล้านบาทต่อปี