บล.บัวหลวง รายงานภาวะรอบด้านตลาดหุ้น 15 กันยายน 2560

วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม

แกว่งในกรอบ หลังจากทะลุ 1,650

เมื่อวานดัชนีหุ้นไทยขึ้นทะลุ 1,650 จุด (ดีกว่าคาด) คงคำแนะนำหาโอกาสในการ เลือกสะสมหุ้นรอบใหม่ เน้นกลุ่มบริโภคในประเทศซึ่งรวมถึงรีเทลไฟแนนซ์, มีเดีย-โฆษณา, โรงแรม, ส่งออก etc.

วันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1,650-1,665 จุด

ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ จาก ความคาดหวังเชิงบวกต่อจิตวิทยา…Window dressing โดยเน้นการเก็งกำไรไปที่หุ้น IPO ใหม่ๆในปีนี้ เช่น ASAP III ZIGA เป็นต้น และหุ้นที่มีกองทุนต่างชาติซื้อยกบิ๊กล็อตไปก่อนหน้าเช่น เทมเพิลตันซื้อ GIFT JWD MACO VGI เป็นต้น สำหรับปัจจัยในต่างประเทศ คาดผลการประชุมเฟด จะคงมมุมมอง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป และคาดเป็นบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นโลก

หุ้นแนะนำวันนี้

UTP (แนวรับ 7.6 ต้าน 8.25 Stop loss 7.25) จากการเริ่มเดินเครื่องจักรเมื่อเดือน ส.ค. เราคาดจะหนุนกำไรใน 4Q17 เติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ จากคาดบริษัทจะเดินเครื่องได้ถึง 500 ตัน/วัน (หรือราว 15,000 ตัน/เดือน)

GIFT (แนวรับ 5.8 ต้าน 6.0/6.5 Stop loss 5.65) เรามองว่าหุ้นมีโอกาสแรลลี่ขึ้นจากปัจจัยหนุน การ Transformation ของธุรกิจไปสู่ Downstream และหากประสบความสำเร็จ คาด PER จะถูก Re-rate ขึ้นตามกลุ่มธุรกิจที่ 30-40 เท่า จาก PER ธุรกิจปัจจุบันที่ 18 เท่า

TAPAC (แนวรับ 24.6 ต้าน 26.0/27.5 Stop loss 24.0) รายงานกำไรไตรมาส 3 ที่ 61 ล้านบาท เติบโต 93% YoY และ 40% QoQ ในขณะที่งบ 9 เดือนปีนี้มีกำไรไปแล้วถึง 144 ล้านบาท เติบโตราว 83%YoY

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(0) ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ BoE ยังมีมติให้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อ
หุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์

(0) การประชุมเฟด 19-20 กย.คาดคงดอกเบี้ย

(+) รองประธานเฟด Fischer (หนึ่งในตัวเต็งประธานเฟดคนต่อไป) ประกาศลาออก ส่งผลบวกต่อโอกาสที่ปธน.ทรัมป์จะวางตัว ประธานเฟดคนใหม่ที่เอื้อต่อ นโยบาย ปธน.ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน “ประธานเฟดเยลเลน” ในปีหน้า และคำสัมภาษณ์ ปธน.ทรัมป์ ที่อ่อนลงต่อเกาหลีเหนือ คาดส่งผลต่อ Risk appetite ในตลาดหุ้นโลก