สรรพสามิตเก็บภาษีรถเข้าเป้า “Motor Expo-โมเดลเชนจ์” หนุน

กรมภาษีโชว์ผลงานเก็บรายได้ สรรพสามิตหวังยอดขาย “มอเตอร์เอ็กซ์โป” ค่ายรถแห่ “โมเดลเชนจ์” ปัจจัยหนุนเก็บภาษีรถยนต์ไตรมาสแรกได้ตามเป้ากว่า 3 หมื่นล้านบาท แม้ภาพรวมยอดขายรถยนต์ปีนี้จะตก ฟากสรรพากรเก็บรายได้เดือนแรกทะลุเป้ากว่า 2 พันล้านบาท มั่นใจไตรมาสแรกไร้ปัญหา ส่วนศุลกากรเจอพิษยอดนำเข้าชะลอฉุดรายได้เดือนแรกต่ำเป้า

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรมสรรพสามิตตั้งเป้าหมายเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.-ธ.ค. 2562) ไว้ที่กว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากปลายเดือน พ.ย.-ต้นเดือน ธ.ค.นี้ จะมีงานมหกรรมมอเตอร์เอ็กซ์โป และเป็นช่วงที่รถยนต์ยี่ห้อต่าง ๆ มีการเปลี่ยนโมเดลใหม่ (model change) ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ประชาชนมีการซื้อรถยนต์กันมากขึ้น

“แม้ว่าปีนี้ยอดขายรถยนต์ในภาพรวมอาจจะชะลอตัว แต่บังเอิญ รถยนต์จะมีการเปลี่ยนโมเดลใหม่ช่วงปลายปีนี้กันพอสมควร ทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์ของประชาชนจึงไม่น่าจะตกมาก ดังนั้น ภาษีรถยนต์โดยรวมน่าจะออกมาน่าพอใจ และจะทำให้การเก็บรายได้ของกรมในภาพรวมไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2563 ไม่มีปัญหา” นายพชรกล่าว

ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 ตัวเลขในเบื้องต้น กรมสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีรวมกว่า 5.9 หมื่นล้านบาท โดยเป็นรายได้ภาษีรถยนต์ราว 1 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่ช่วงปลายปี ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของภาษีบาปตามฤดูท่องเที่ยว น่าจะทำให้การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในไตรมาสแรก เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

ขณะที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา กรมสรรพากรสามารถเก็บภาษีได้เกินเป้าหมาย 2,415 ล้านบาท โดยหลัก ๆ มาจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่เก็บจากฐานการบริโภคภายในประเทศ โดยคาดว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมในไตรมาสแรกนี้ ไม่น่าจะมีปัญหา น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้


ก่อนหน้านี้ นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลฯจัดเก็บรายได้เดือน ต.ค. 2562 ทั้งสิ้นที่ 52,192 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นส่วนที่เป็นอากรศุลกากร 8,701 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการไป 99 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าในเดือน ต.ค.มีแนวโน้มชะลอตัวลง ส่วนที่เหลือเป็นการจัดเก็บรายได้แทนหน่วยงานอื่นอีก 43,491 ล้านบาท