ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้านี้ (4 พ.ย.) อ่อนค่าลงแตะระดับ 30.27 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.26 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.20-30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยในคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกเข้าสู่โหมดปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 0.66% Euro Stoxx 50 ปรับตัวลง 0.43% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปี กลับตัวลง 10bps มาที่ระดับ 1.71% ยีลด์เยอรมันอายุ 10 ปี ปรับตัวลง 6.7bps แตะระดับ -0.34% และราคาทองปรับตัวขึ้น 1.0%
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ทั้งหมดนี้เกิดจากความกังวลกับสงครามการค้า เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่ายังไม่ตัดสินใจเรื่องข้อตกลงการค้ากับจีน และตลาดอาจต้องรอไปจนถึงหลังการเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งหมายความว่า การขึ้นภาษีกับสินค้าจีนในวันที่ 15 เดือนนี้จะเกิดขึ้นตามกำหนด
ซึ่งภาพความเสี่ยงดังกล่าวน่าจะทำให้ตลาดการเงินฝั่งเอเชียเข้าสู่โหมดปิดรับความเสี่ยงเช่นกันในวันนี้ และล่าสุดดัชนีหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ก็ปรับตัวลงในช่วงต้นตลาดแล้วถึง 1.04%
“อย่างไรก็ดี เชื่อว่าผลกระทบจะไม่ลามมาถึงพันธบัตร (บอนด์) ในตลาดเกิดใหม่ เพราะแม้ทิศทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวจากปัญหาการค้า แต่ยีลด์สหรัฐที่ลดลงพร้อมกับเงินเฟ้อในประเทศ ก็ยังเป็นการเปิดทางให้ธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่ สามารถใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงเพื่อประคองเศรษฐกิจได้” ดร.จิติพลกล่าว
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เทียบกับทอง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เงินบาทและสกุลเงินเอเชียไม่อ่อนค่าลงในระยะสั้น