“ทีคิวเอ็ม” รุกขายประกันผ่าน “บิ๊กซี” ดันยอดขาย จับมือเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์ “กลุ่มอาคเนย์” เครือเจ้าสัวเจริญ ตกลง “วิน-วิน” แบ่งรายได้ร่วมกัน ประเดิม 10 สาขาใน 3-6 เดือนข้างหน้า เริ่มขายสินค้าประกันชีวิตก่อนขยายประกันวินาศภัยกลางปีหน้า ลุยซื้อโบรกเกอร์ประกันเพิ่มอีก 1 รายปีหน้า ปักธงเบี้ยรับปีหน้าโตทะลุ 10% ปีนี้คาดเบี้ยรับโตตามเป้า 12,790 ล้านบาท
นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้านี้ บริษัทมีแผนจะเข้าไปทดลองขยายช่องทางการขายผ่านห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี (Big C) ให้ได้ 10 สาขา โดยขณะนี้ได้เริ่มให้บริการแล้วประมาณ 5 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเบื้องต้นจะนำร่องขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของกลุ่มอาคเนย์ก่อนขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้งนี้ บริษัทเป็นพันธมิตรรายเดียวที่ขายผ่านช่องทางนี้ เนื่องจากอาคเนย์เป็นบริษัทในเครือธุรกิจเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“จะมีการแบ่งสัดส่วนรายได้ร่วมกัน โดยไม่ต้องลงทุนจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในห้าง ทั้งนี้ เราจะทดลองให้บริการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเริ่มตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ของแต่ละภาค ซึ่งจะค่อย ๆ เปิดทีละเฟส ขณะนี้ยังไม่ได้วางเป้ายอดขาย เพราะยังอยู่ในช่วงทดลอง คงจะต้องดูผลตอบรับไปสัก 1-2 เดือนก่อน ถึงจะวางแผนเบี้ยประกันได้” นางนภัสนันท์กล่าว
นางนภัสนันท์กล่าวว่า การขยายช่องทางการขายใหม่ผ่านห้างบิ๊กซี ไม่ได้หมายความว่า ช่องทางโทรศัพท์ (เทเลเซล) ซึ่งเป็นช่องทางหลักของบริษัทจะอิ่มตัว แต่จะเข้าไปแก้ปัญหา (pain point) การขายประกันชีวิตผ่านช่องทางเทเลเซลมากกว่า เพราะสินค้าประกันชีวิตจะเหมาะกับช่องทางแบบ face-to-face ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขาย และเข้าถึงบริการลูกค้าได้ทุกเซ็กเมนต์มากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่กว่า 1.5 ล้านคน ทั้งนี้ ประมาณช่วงกลางปี 2563 จะเปิดขายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่เปิดขายประกันชีวิตและประกันสุขภาพเป็นหลัก
“ตอนนี้ช่องทางการขายของเราจะเป็นแบบ omnichannel บางทีลูกค้าติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ปิดการขายผ่าน face-to-face หรือเทเลมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งจะมีความหลากหลายครบทุก touch point ที่ลูกค้าจะไป โดยมีสินค้าจากบริษัทประกันวินาศภัยและประกันชีวิตที่เป็นพันธมิตรให้เลือกเกือบ 50 แห่ง” นางนภัสนันท์กล่าว
สำหรับปีนี้ บริษัทคาดว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่ 12,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) บริษัทมีเบี้ยทะลุ 1 หมื่นล้านบาทไปแล้ว ยังไม่รวมช่วงปลายปีที่จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจประกันภัย ที่คนหาซื้อประกันเพื่อนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
นางนภัสนันท์กล่าวอีกว่า ปี 2563 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวมโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยเพิ่มเติมอีก 1 แห่งในปีหน้าจะเป็นแรงสนับสนุน หลังจากปีนี้ได้เข้าไปซื้อกิจการ “เจ เอ็น อินชัวร์รันส์ โบรกเกอร์” ซึ่งเป็นนายหน้าประกันรถยนต์ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายก่อนหน้านี้
