คปภ.ยกเครื่องประกันลงทุน แย้มเปิดทางถือหุ้น รพ.เพิ่ม

คปภ.ตั้งคณะทำงานศึกษาแก้ประกาศลงทุนใหม่ทั้งฉบับ หนุนบริษัทประกันแสวงหาผลตอบแทนยุคดอกเบี้ยต่ำนาน หวั่นลงทุนได้ยีลด์ต่ำไม่เพียงพอรองรับภาระผูกพันต่อผู้เอาประกันภัย เบื้องต้นเล็งเปิดทางธุรกิจประกันลงทุน “สถานพยาบาล” เพิ่ม คาดชงบอร์ดเคาะมีผลบังคับใช้ได้ภายในปี’63

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาดำเนินการแก้ไขประกาศลงทุนของธุรกิจประกันภัยใหม่ทั้งฉบับ เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน และจะยังต่ำไปอีกนาน ทำให้ธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะประกันชีวิตจำเป็นต้องแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่เพียงพอกับภาระผูกพันต่อผู้เอาประกันภัย

“คปภ.ทราบถึงความยากลำบากของบริษัทประกัน จากสถานการณ์ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำนาน โดยเฉพาะบริษัทประกันชีวิตที่ค่อนข้างจะเป็นกังวลมากกว่าบริษัทประกันวินาศภัย จึงจำเป็นต้องขยายขอบข่ายการลงทุนให้กว้างขึ้น”

ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าอาจจะขยายขอบเขตการลงทุนในสถานพยาบาลเพิ่มเติม อาทิ การเข้าไปถือหุ้นเพิ่ม อย่างไรก็ดี คงต้องประมวลความเสี่ยงสินทรัพย์ทุกประเภทอย่างรอบด้าน

นอกจากนี้ ประกาศบางฉบับก่อนหน้านี้ที่ออกมาแล้วปฏิบัติไม่เท่าเทียมกัน ก็ต้องแก้ไขด้วย อย่างเช่น ประกาศเกี่ยวกับการถือครองหุ้นในบริษัทอื่น ที่มีบางบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตตั้งแต่ในอดีต ไม่สามารถถือครองหุ้นในอีกบริษัทได้ ส่วนบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตหลังจากนั้นสามารถทำได้ทั้งหมด

“การลงทุนควรจะยืดหยุ่นขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มผลตอบแทนและเพิ่มโอกาสการลงทุนได้มากขึ้น เพราะขณะนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก บางเรื่องเมื่อก่อนอาจจะเสี่ยง แต่ปัจจุบันอาจจะไม่ได้เสี่ยงมากแล้ว ก็ไม่ควรบล็อกไว้ แต่เราต้องมอนิเตอร์ต่อเนื่อง เพราะถ้าบริษัทประกันไปลงทุนเสี่ยงมาก ๆ ประชาชนจะเดือดร้อน อาจจะต้องค่อย ๆ ทยอยปรับ” นายสุทธิพลกล่าว

นายสมประโชค ปิยะตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับการลงทุน คปภ. กล่าวว่า การปรับปรุงประกาศลงทุนใหม่ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ เนื่องจากเพิ่งมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน แต่เนื่องจากการแก้ไขประกาศครั้งนี้จะเชื่อมโยงหลายฝ่าย และหาก คปภ.เปิดโอกาสให้บริษัทประกันสามารถลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมาก ๆ ก็อาจต้องพิจารณาถึงจำนวนเงินที่เตรียมไว้เพื่อรองรับความเสียหายจากด้านการลงทุนและการรับประกันภัย (risk charge) ที่เพียงพอด้วย จึงอาจจะต้องปรับปรุงประกาศเกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนเพื่อความมั่นคงของบริษัทประกันภัยในอนาคตด้วย

“ต้องพิจารณาอย่างรอบด้านทุกมิติ หากผลออกมาอย่างไรแล้วจะต้องนำไปรับฟังความเห็น หลังจากนั้นถึงจะนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ คปภ. ซึ่งคาดว่าคงเริ่มมีผลบังคับใช้ภายในปีหน้าได้” นายสมประโชคกล่าว