“ฟิลลิป มอร์ริส” หนุนรัฐปรับปรุงระบบภาษีบุหรี่ใหม่ให้สอดคล้องหลักสากล แก้ปัญหาบุหรี่ถูกตีตลาด

หลังจากที่กรมสรรพสามิตได้ประกาศโครงสร้างและอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่โดยมีผลทันที ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด แสดงความยินดีในการผ่านกฎหมายนี้ที่จะใช้ราคาขายปลีกแนะนำเป็นฐานภาษีในการจัดเก็บภาษี อีกทั้งยังสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลในการแก้ปัญหาการขยายตัวของบุหรี่ราคาถูก อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่าระบบภาษียาสูบใหม่นี้ยังสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้อีกเพื่อให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติสากล

นายเจอรัลด์ มาร์โกลีส กรรมการผู้จัดการใหญ่ของฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด กล่าวว่า “ตลาดบุหรี่ในประเทศไทยต้องเผชิญกับการดิ่งลงไปหาบุหรี่ราคาถูกอย่างรวดเร็วมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เนื่องจากอัตราภาษีและโครงสร้างการจัดเก็บก่อนหน้านี้ที่เป็นปัญหา ณ วันนี้ บุหรี่ราคาถูก (ราคาต่ำกว่า 60 บาทต่อซอง) มีสัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 55 ของบุหรี่ทั้งหมด ซึ่งส่งผลทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังไม่สามารถควบคุมอัตราการสูบบุหรี่ได้ด้วย”

“บริษัทฯ สนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการควบคุมผลกระทบจากบุหรี่ราคาถูก รวมถึงความพยายามลดช่องว่างของราคาในตลาดบุหรี่ อย่างไรก็ตาม อัตราภาษียาสูบใหม่ที่ประกาศออกมานั้นยังสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้อีกเพื่อให้เป็นไปตามหลักสากลที่หลายหน่วยงานสนับสนุนให้มีการนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารโลก หรือองค์การอนามัยโลก อีกทั้งยังเป็นหลักที่ประเทศพัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศได้นำมาใช้” นายมาร์โกลีสกล่าว

ระบบภาษีใหม่ได้แบ่งการเก็บภาษีขามูลค่าเป็นสองชั้น โดยลดอัตราภาษีตามมูลค่าของบุหรี่ที่มีราคาต่ำกว่า 60 บาทลงถึงครึ่งหนึ่ง (50%) โครงสร้างภาษีที่เป็นสองชั้นเช่นนี้ก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้า อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันไปหาสินค้าที่มีราคาถูกเพราะระบบภาษีใหม่นี้ก่อให้เกิดแรงจูงใจให้ผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้าหันมาผลิตสินค้าราคาถูก ท้ายที่สุดแล้วก็อาจเป็นการกระตุ้นการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะในหมู่เยาวชน

“เราเชื่อว่าแผนการช่วงเปลี่ยนผ่าน 2 ปีของรัฐบาลที่จะปรับให้ภาษีสรรพสามิตบุหรี่เป็นอัตราเดียวกันหมดนั้นเป็นการดำเนินการในทิศทางที่ถูกต้อง เราสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่และวิงวอนให้มีการเร่งนำภาษีอัตราเดียวมาใช้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้ฟิลลิป มอร์ริสกำลังเดินหน้าสู่การสร้าง สังคมไร้ควันและสนับสนุนนโยบายภาษีตามหลักการลดอันตรายในยาสูบที่จะช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่เปลี่ยนจากการใช้บุหรี่มาเป็นทางเลือกอื่นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า เช่น ผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ไม่มีการเผาไหม้ โดยผลิตภัณฑ์ทางเลือกนี้พร้อมทั้งระบบภาษีที่เหมาะสมจะช่วยสร้างประโยชน์ในด้านสุขภาพของประชาชนให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก”

นายมาร์โกลีสกล่าวเสริมว่า “ขณะนี้เรากำลังประเมินผลกระทบของโครงสร้างภาษีใหม่และจะดำเนินการที่จำเป็นในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของสินค้าของเรา เราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และกรมสรรพากร เพื่อให้การรายงานและการชำระภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสมในช่วงของการออกกฎหมายใหม่นี้ และในอนาคตบริษัทฯ หวังจะได้ร่วมทำงานกับกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตเพื่อช่วยทำให้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตและอัตราการจัดเก็บเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับหลักสากล”