โบรกฯ เชียร์ซื้อ “PTTEP” อานิสงส์ “สหรัฐ-จีน” บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 16 ธ.ค.62 ว่า เรามีมุมมองเป็นกลางและคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,565 – 1,580 จุด แม้ตลาดจะยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) เข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงตอบรับปัจจัยที่สหรัฐกับจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งครอบคลุมถึงการที่จีนตกลงซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐจะไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่และจะลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 1.20 แสนล้านดอลลาร์ลงเหลือ 7.5% จากเดิมที่ระดับ 15% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากที่ นายบอริส จอห์นสัน ชนะการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษส่งผลให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนเบร็กซิต (Brexit) มากขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน

อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีดีดตัวขึ้นตอบรับข่าวมาระดับนึงแล้ว ประกอบกับกระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่อง รวมถึงสหรัฐกำลังพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) 100% ในหลายสินค้าเพื่อตอบโต้กรณีการให้เงินอุดหนุนบริษัทแอร์บัสของฝรั่งเศส ซึ่งประเด็นกล่าวจะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy) ในกลุ่มที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศ (Global Play) ได้แก่ PTTEP, TOP, PTTGC, IVL, KCE และ HANA อานิสงส์ข่าวจีนกับสหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก และกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ SET 50 และ SET 100 รอบใหม่ ได้แก่ SET 50 คาดว่าจะเป็น VGI ส่วน SET 100 คาดว่าจะเป็น STPI, THG, TQM และ VGI รวมถึงแนะนำกลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 4/62 จะเติบโต ได้แก่ GPSC, CPF, ERW, TASCO, EPG , SAWAD, MTC, JMT, BCH และ CHG

ส่วนหุ้นเด่นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BCH (ราคาปิดล่าสุดที่ 17.40 ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท) เนื่องจากกำไรสุทธิยังเติบโตดี ระยะสั้นยังมีสตอรี่และโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้น (Upside Risk) จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม โดยปกติจะมีการเจรจาเพื่อปรับค่ารักษาพยาบาลกันทุก 2 ปี (BCH ปรับขึ้นราคาครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ก.ค.60)


ถัดมาแนะนำ PTTEP (ปิดล่าสุด 123.50 แนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 135.00) ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว และไม่มีความเสี่ยง (Over hang) จากประเด็นการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันมากวนใจ ขณะที่แนวโน้มงบไตรมาส 4/62 จะยังเด่นสุดของกลุ่ม ปตท. เนื่องจากมีแรงหนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการรับรู้การผลิตจากแหล่งเมอร์ฟี่ที่ซื้อเข้ามาเต็มไตรมาส