เงินบาทอ่อนค่าระหว่างวัน ก่อนการประชุมกนง.18 ธ.ค.นี้

แฟ้มภาพ
บาทอ่อนค่าระหว่างวัน ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 18 ธ.ค.นี้

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (17/12) ที่ระดับ 30.21/22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (16/12) ที่ระดับ 30.22/23 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐค่อนข้างทรงตัว หลังไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.2 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 52.0 ในเดือน พ.ย. ใกล้เคียงกับตลาดคาดการณ์ โดยดัชนี PMI ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้ ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ทั้งภาคการผลิตและบริการ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (empire State Index) ขยับขึ้น 0.6 จุดสู่ระดับ 3.5 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.0 ทำให้โดยภาพรวมค่าเงินบาททรงตัวจากวันก่อน สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจับตาดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันพุธนี้ (18/12) ซึ่งคาดว่า ธปท.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิมที่ 1.25% ทั้งนี้ระหว่างวันบาทเริ่มอ่อนค่า จากแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐของผู้นำเข้า ทำให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.21-30.27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.25/26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (17/12) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1139/40 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (16/12) ที่ระดับ 11.35/36 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังนักลงทุนเริ่มมีความหวังว่า สหราชอาณาจักรจะสามารถแยกตัวจากสหภาพยุโรปแบบมีข้อตกลงได้สำเร็จในเดือน ม.ค. หลังนายบอริส จอห์นสัน พรรคอนุรักษ์นิยมชนะการเลือกตั้งในอังกฤษด้วยคะแนนเสียงล้นหลาม ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1129-1.1158 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1143/44 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (17/12) เปิดตลาดที่ระดับ 109.54/56 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (16/12) ที่ระดับ 109.42/44 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐกล่าวยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในต้นเดือน ม.ค. 2563 และหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะเริ่มต้นเจรจาทำข้อตกลงเฟสสอง ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินเยน
ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง ทั้งนี้ ในการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพฤหัสบดีนี้ (19/12) นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใด ๆ โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.39-109.68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.63/64
เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน พ.ย. (17/12), การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. (17/12), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ต.ค. (17/12), สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) (18/12), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (19/12), ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2562 (19/122), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ย. (20/12), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) (20/21), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (20/12)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.50/-2.30 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.5/+0.37 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ