หุ้น-การเงิน

ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบ นักลงทุนรอดูการถอดถอนปธน.ทรัมป์

แฟ้มภาพ

เงินดอลลาร์สหรัฐ เคลื่อนไหวในกรอบแคบขณะที่นักลงทุนรอดูการลงมติถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (19/12) ที่ระดับ 30.22/24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (18/12) ที่ระดับ 30.22/23 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังเมื่อวาน (18/12) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยสองข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาแรกคือ การใช้อำนาจในทางมิชอบ โดยลงมติด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 เสียง และข้อหาที่สองคือการขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส โดยมีมติด้วยคะแนนเสียง 229 ต่อ 198 ในมติถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลให้ประธานาธิบดี ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐรายที่ 3 ที่ถูกสภาคองเกรสพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ดีนักลงทุนจับตาดูการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐ ในการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ในคืนนี้ (19/12) โดยทำเนียบขาวแสดงความเชื่อมั่นว่า วุฒิสภาสหรัฐซึ่งมีพรรครีพับลิกันเป็นเสียงข้างมาก จะลงมติให้ประธานาธิบดีทรัมป์รอดพ้นจากการถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง

ในส่วนของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ล่าสุดระหว่างวัน (19/12) สำนักข่าวจีนได้รายงานว่าจีนได้เปิดเผยรายการสินค้าของสหรัฐเพิ่มเติมที่จะได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีนำเข้ารอบแรก และคณะกรรมการภาษีศุลกากรของสภาแห่งรัฐจีนระบุในแถลงการณ์ว่า การยกเว้นการเก็บภาษีครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่จีนจะยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเพิ่มเติมจากการตอบโต้ด้านภาษีรอบแรกต่อมาตรา 301 ของสหรัฐ โดยรายการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเพิ่มเติมนั้น จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 และจะไม่มีการคืนภาษีสำหรับสินค้าสหรัฐที่จะถูกจีนเก็บภาษีนำเข้าไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.20-30.23 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.20/21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (19/12) ที่ระดับ 1.1120/21 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (18/12) ที่ระดับ 1.1133/35 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินอ่อนถึงแม้ว่าเมื่อคืนวาน (18/12) สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1111-1.1139 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1134/36 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าววันนี้ (19/2) ที่ระดับ 109.60/62 เยน/
ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (18/12) ที่ระดับ 109.43/45 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนอ่อนค่าสวนทางกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ดีระหว่างวัน (19/12) สำนักข่าวเกียวโตรายงานว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับร้อยละ -0.1 รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ร้อยละ 0.0 แม้ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณของการชะลอตัวลงนับตั้งแต่ที่ได้มีการปรับขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ตาม

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้มีการเปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ย่ำแย่ลงในไตรมาส 4 ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี แต่ทางธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ดำเนินการตามรอยธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปที่คงอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกเริ่มคลี่คลายลงหลังจากที่จีนและสหรัฐ ได้บรรลุข้อตกลงการค้าในเฟสแรก ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.52-109.67 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.54/56 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ การประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (19/12), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (19/12), ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2562 (19/12), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพฤศจิกายน (20/12), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) (20/12), และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคมจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (20/12)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.10/-1.90 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.05/0.08 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ