ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง

ภาพประกอบข่าวดอลลาร์สหรัฐ
แฟ้มภาพ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง ขณะที่ตลาดขาดสภาพคล่องในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2563 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (2/1) ที่ระดับ 30.12/14 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (30/12) ที่ระดับ 29.95/97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงสิ้นปี โดยปรับตัวแข็งค่าสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 ปีที่ระดับ 29.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะอ่อนค่ากลับมาสู่ระดับที่ 30.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยสาเหตุมาจากการขายดอลลาร์สหรัฐ เพื่อการเก็งกำไรของนักลงทุน รวมถึงสภาพคล่องของเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่นั้นขาดตลาด

อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทกลับอ่อนค่ายืนเหนือระดับ 30.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงสายวันนี้ (2/1) เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ โดยนายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้านเสถียรภาพการเงินระบุว่าค่าเงินบาทผันผวนกว่าปกติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน โดยเป็นผลจากการเร่งทำธุรกรรมก่อนสิ้นปีของผู้ประกอบการบางรายในสภาวะที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ ขณะที่นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ข่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า สภาพคล่องในตลาดยังมีความผันผวนสูง โดย ธปท.จะดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของไทยประจำเดือนธันวาคม 2562 โดยเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.87 และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.45 จากช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.10-30.17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.14/17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยในช่วงท้ายปี (30/12) มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของประเทศสหรัฐอเมริกา (CB Consumer Confidence) ประจำเดือนธันวาคม 2562 โดยถูกเปิดเผยออกมาที่ 126.5 ต่ำกว่าค่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สะท้อนว่าตลาดยังคงกังวลต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกาแถลงการณ์ถึงความคืบหน้าของสัญญาการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศจีน โดยนายทรัมป์ระบุว่าทั้งสองประเทศจะมีการลงนามสัญญาการค้าเฟส 1 ในวันที่ 15 มกราคม 2563 ที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (2/1) ที่ระดับ 1.1218/20 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (30/12) ที่ระดับ 1.1192/93 ดอลลาร์สหรัฐ ช่วงบ่ายวันนี้ (2/1) ดัชนีภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ของยูโรโซน ถูกเปิดเผยออกมาที่ 46.3 และของประเทศ
เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของยโรโซนถูกเปิดเผยออกมาที่ 43.7 ในเดือนธันวาคม ซึ่งยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งเป็นค่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจาก
ธุรกรรมในตลาดเบาบาง เนื่องจากตลาดเพิ่งจะเปิดทำการจากวันหยุดเทศกาลปีใหม่ และบริษัทบางส่วนยังคงไม่เปิดทำการ ทั้งนี้ระหว่างวนค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1205-1.1220 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1205/09 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (2/1) ที่ระดับ 108.71/72 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (30/12) ที่ระดับ 109.14/16 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนแข็งค่าเล็กน้อยสวนทางกับเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินที่ประเทศญี่ปุ่นยังคงปิดทำการ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.71-108.81 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.78/81 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนคนที่ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (2/1), ดัชนีภาคการผลิตของของสหรัฐเดือนธันวาคม (2/1), อัตราการว่างงานของเยอรมนีเดือนธันวาคม (3/1), ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ จากสถาบัน ISM เดือนธันวาคม (3/1)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -250/-2.30 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง  ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -4.40/-3.20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ