พันธบัตรรัฐบาลปี 2562 Low Risk but High Return

คอลัมน์ สถานีลงทุน
โดย อรรถเดช เทพชัยธนะวงศ์ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

high risk high return เป็นหลักการที่นักลงทุนทุกคนรู้ดี แต่อาจจะไม่อยากยอมรับ เพราะต่างก็ต้องการ low risk high return ซึ่งหาไม่ได้ในช่วงเวลาปกติ แต่อาจเกิดขึ้นได้บ้างบางครั้งบางคราว สำหรับนักลงทุนที่บริหารพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเองควรมีการคำนวณผลตอบแทนของสินทรัพย์ในพอร์ตเป็นระยะ และทำการปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจ ปีที่ผ่านมาสินทรัพย์ทางการเงินของไทยแต่ละประเภทมีอัตราผลตอบแทนเป็นอย่างไร? สินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนสูงสุด เราลองมาเปรียบเทียบกัน

เริ่มจากกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) เป็นสินทรัพย์ที่เสมือนหลุมหลบภัยให้แก่นักลงทุนในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง สินทรัพย์ที่มักจัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เครดิตดี และทองคำ ถ้านับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 23 ธ.ค. 62 การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลให้ผลตอบแทนสูงถึง 14.83% (คำนวณจากดัชนีผลตอบแทนรวมพันธบัตรรัฐบาล ทุกช่วงอายุ) เพราะในปีนี้บอนด์ยีลด์ปรับลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะรุ่นอายุยาว ๆ มีผลให้ราคาพันธบัตรเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาตราสารหนี้จะปรับตัวในทิศทางตรงข้ามกันกับบอนด์ยีลด์

อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมตราสารหนี้ส่วนใหญ่ในประเทศไทยมักจะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น จึงอาจได้รับประโยชน์จากการปรับลงของบอนด์ยีลด์ไม่มากนัก ทำให้ผลตอบแทนของกองทุนรวมตราสารหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ราว 3.08% ส่วนหุ้นกู้ภาคเอกชนกลุ่ม investment grade (คำนวณจากดัชนีผลตอบแทนหุ้นกู้อันดับเครดิตตั้งแต่ BBB- ขึ้นไป ทุกช่วงอายุ) ให้ผลตอบแทน 5.35% และทองคำให้ผลตอบแทน 12.82%

ข้ามมาที่กลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง การลงทุนในหุ้นสามัญมีความผันผวนมาก โดยครึ่งปีแรก SET index ปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอด จนทำสถิติสูงสุดของปีที่ 1,740.49 จุด ในวันที่ 1 ก.ค. 62 (+178 จุดจากสิ้นปี’61) แต่หลังจากนั้นเหมือนหนังคนละม้วน SET index ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ณ 23 ธ.ค.62 SET index ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนเพียง 10 จุด ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึง 23 ธ.ค. 62 อยู่ที่ 3.84% (คำนวณจากดัชนีผลตอบแทนรวม : SET total return index) และถ้าดูเฉพาะ SET100 ให้ผลตอบแทนที่ 5.12%

ปี 2562 ที่เพิ่งผ่านไปนี้ จึงเป็นปีที่การลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาลให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ที่เรียกว่า low risk but high return อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนมีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสมตามความเสี่ยงที่รับได้ ไม่ว่าปีนี้อัตราดอกเบี้ยจะต่ำลงไปกว่านี้หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น พอร์ตการลงทุนของเราก็จะยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ