“อุตตม” พบนักลงทุนต่างชาติกว่า 35 กองทุน ดันปี 2563 เป็นปีแห่งการลงทุนของไทย

วันที่ 14 มกราคม 2563 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการพบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากนักลงทุนสถาบันภาคเอกชนของฮ่องกง ซึ่งกระทรวงการคลังจัดร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ณ โรงแรม Grand Hyatt Hong Kong โดยมีนักลงทุนเข้าหารือกว่า 35 กองทุน รวมมูลค่าถึง 20.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำเสนอทิศทางและนโยบายเศรษฐกิจ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเน้นย้ำว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ปี 2563 นี้เป็นปีแห่งการลงทุนของไทย รวมทั้งได้ชี้แจงถึงความสำคัญของการปฏิรูปเศรษฐกิจไทยเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยไทยได้มีการเร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งในรูปแบบกายภาพและดิจิทัลซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษระเบียงตะวันออกที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของไทย และการวางระบบ National e-Payment เพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินของไทยให้เข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร การลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการพัฒนาธุรกิจ Start up และ Fintech

นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำว่า ไทยมีสภาวะด้านการคลังและการเงินที่แข็งแกร่งและพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะด้านการบริโภคและการลงทุนในประเทศในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนทั้งนี้ นักลงทุนสถาบันที่ร่วมงานครั้งนี้ได้แสดงความสนใจในเศรษฐกิจไทยและตลาดทุนไทยเป็นอย่างมาก และมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่แข่งแกร่ง และนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐต่างๆ ที่จะเอื้อต่อการลงทุนในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างการเยือนฮ่องกง ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าเยี่ยมคารวะและร่วมหารือทวิภาคีกับนายพอล ชาน (Mr. Paul Chan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (Financial Secretary) ของฮ่องกง ณ กระทรวงการคลังฮ่องกง เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 เพื่อสานต่อความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ร่วมกันลงนาม เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทยและแนวนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย ตลอดจนนโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและทางดิจิทัล ในส่วนความร่วมมือทางการเงินนั้น ไทยและฮ่องกงตกลงที่จะผลักดันการเชื่อมโยงตลาดทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้ามตลาดระหว่างกัน (Cross-border Product) รวมถึงการเชื่อมโยงด้านข้อมูล (Market Data Connectivity) ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างความตระหนักของนักลงทุนรายย่อยของทั้งสองฝ่าย

พร้อมทั้งลดอุปสรรคในระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ของอีกฝ่ายได้ (Cross Listing) และการอำนวยความสะดวกในการเสนอขายหลักทรัพย์ระหว่างกัน โดยเฉพาะการเร่งดำเนินการให้ได้ข้อสรุปและมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงเรื่องการเสนอขายหน่วยลงทุนข้ามกันได้ (Mutual Recognition of Funds: MRF) ซึ่งรวมถึงอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund: ETF) และส่งเสริมความร่วมมือด้านผลิตภัณฑ์การเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการเงินที่ยั่งยืน เช่น ผลิตภัณฑ์การเงินสีเขียว (Green/Sustainable Financing) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการเงินของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ ไทยและฮ่องกงพร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือทางการเงินอื่น ๆ อาทิ การเสริมสร้างโอกาสการลงทุนระหว่างกันโดยเฉพาะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และความร่วมมือด้านเทคโนโลยีทางการเงินอื่น ๆ เช่น Fintech เป็นต้น