บล.กรุงศรีชี้ช่องเก็งกำไรหุ้นรับเหมา “STEC-CK-SEAFCO” รับอานิสงส์ข่าวประมูลสนามบินอู่ตะเภา

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 16 ม.ค.63 ว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลาง โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) จะแกว่งตัว 1,575 – 1,588 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐกับจีนลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งสหรัฐจะปรับลดภาษีลงครึ่งหนึ่งจากอัตรา 15% ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ และจะชะลอการเก็บภาษีเพิ่มเติม ขณะที่จีนเตรียมปฏิรูปโครงสร้างรวม โดยจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังคงตรึงอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนราว 2 ใน 3 มูลค่าราว 3.6 แสนล้านดอลลาร์ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน พ.ย. และจะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีลงเมื่อมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสสอง ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจการการเจรจาในอนาคต ประกอบกับกระแสเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่ยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง 5 วันราว 5.3 พันล้านบาท จะกดดันให้ดัชนีผันผวนต่อไป

ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy) ในกลุ่มปลอดภัย (Defensive) ที่คาดว่างบไตรมาส 4/62 จะออกมาดีและดีต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่ GPSC, GULF, JMT , CPF, SAWAD, MTC, BTS, BEM, INTUCH, ADVANC และ DTAC กลุ่มเครื่องดื่ม OSP, CBG, HTC, ICHI และ SAPPE อานิสงส์ภัยแล้งที่รุนแรงและยาวนานจนถึงกลางปี กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ HANA, KCE และ DELTA รับอานิสงส์สงการค้าผ่อนคลายและเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง รวมถึงกลุ่มรับเหมา STEC, CK และ SEAFCO ลุ้นผลการเปิดซองราคาประมูลสนามบินอู่ตะเภาในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.)

ขณะที่หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CK (ราคาปิด 20.90 บาท ราคาซื้อ/เป้า IAA Consensus 25.50 บาท) แนะนำเก็งกำไรจากข่าวเปิดประมูลซองราคาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาในวันพรุ่งนี้ ในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน CK ยังมีเงินลงทุนในบริษัทลูกซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้า ทางด่วน (BEM), น้ำประปา (TTW) และ โรงไฟฟ้า (CKP) จึงมีความมั่นคงของผลประกอบการมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นที่เน้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพียงอย่างเดียว

ถัดมาแนะนำ CPF (ราคาปิด 29.50 บาท ราคาซื้อ/เป้า 33.50 บาท) โดยคาดว่าทิศทางผลกำไรไตรมาส 4/62 และต่อเนื่องไปยังไตรมาส 1/63 จะยังดีต่อเนื่อง สอดรับจากราคาหมูในประเทศฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 73-74 บาท/กิโลกรัม เทียบจาก 55 บาท/กิโลกรัม ในช่วงไตรมาส 2/62 ถึงไตรมาส 3/62 เช่นเดียวกับราคาหมูเวียดนามที่ฟื้นตัวขึ้นกว่าเท่าตัวจากระดับ 33,000 ดอง/กิโลกรัม ขึ้นเป็น 80,000 ดอง/กิโลกรัมในปัจจุบัน