ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (17 ม.ค.) อ่อนค่าที่ระดับ 30.37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ กรอบเงินบาทวันนี้ 30.35-30.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดการเงินสหรัฐในคืนที่ผ่านมายังคงอยู่ในโหมดเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) ดัชนี S&P500 ปรับตัว +0.8% ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง หลังผลประกอบการของกลุ่มธนาคารอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ก็ชี้ว่ากำลังซื้อและตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง ต่างจากฝั่งยุโรปที่ไม่ได้มีปัจจัยบวก ดัชนี Euro Stoxx 50 จึงปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.14%
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสด
- เงินสวัสดิการผู้สูงอายุ 13 รายการ รับสิทธิกว่า 1 แสนบาทต่อคน
- ราคาทองวันนี้ (27 มี.ค. 67) ปรับลง 50 บาท ทองรูปพรรณ 38,050 บาท
โดยภาพดังกล่าวผลักให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 4bps สวนทางกับยีลด์ญี่ปุ่น เยอรมัน และอังกฤษที่ปรับตัวลง เงินดอลลาร์จึงแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินเยนอ่อนค่ามาที่ระดับ 110 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งจะหนุนภาพการลงทุนในหุ้นเอเชียวันนี้
อยางไรก็ดี เงินบาทอาจไม่ได้เคลื่อนไหวตามทิศทางสกุลเงินเอเชียมากนัก เนื่องจากยังมีการแทรกแซงของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ พร้อมกันนี้นักลงทุนต่างชาติก็ขายทำกำไรสินทรัพย์ในไทยเพื่อไปลงทุนที่อื่นในเอเชีย ดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้อีกด้วย
ส่วนในสัปดาห์หน้า (20-24 ม.ค.) ปัจจัยที่ต้องติดตามจะกลับมาเป็นการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 21 ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 23 และ World Economic Forum ที่กรุงดาวอซ ช่วงวันที่ 20 ถึงวันที่ 24 ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีอังกฤษก็จะนำข้อตกลงการออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขึ้นโหวตในสภาช่วงวันจันทร์ด้วย จึงมีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะซื้อขายในกรอบแคบ และถ้าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ก็อาจเห็นการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น บอนด์ยีลด์ และเงินเอเชีย ในระยะสั้น