“ทรีนีตี้” ชี้ไวรัสโคโรน่ากระทบหุ้นท่องเที่ยว เลี่ยงรอซื้อหลัง WHO ประกาศคุมโรค

“ทรีนีตี้” ชี้ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ กระทบหุ้นท่องเที่ยว เหตุนักท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนลดลง แนะรอซื้อหลัง WHO ประกาศคุมโรคได้ ขณะหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจะได้รับอานิสงส์เชิงบวก

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผย ถึงกรณีที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดและทำให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงรวมถึงตลาดหุ้นไทย ว่า ผลของไวรัสโคโรน่าจะกระทบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลและในขณะนี้ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญชะลอลงได้ ซึ่งจะกระทบกับราคาหุ้นโรงแรม 3 ตัวหลัก อย่าง บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT รวมถึง บริษัท ท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
ทั้งนี้ ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยรอบนี้มีโอกาสปรับตัวอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากไทยกลายเป็นประเทศแรกๆของโลกที่มีการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ซึ่งจากการศึกษาของทรีนีตี้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค SARS เมื่อปี 2545-2546 พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อกับการปรับตัว Underperform ของดัชนีประเทศนั้นๆมีความสอดคล้องกัน

“ช่วงการระบาดของโรค SARS ในครั้งก่อน กลุ่มท่องเที่ยวถือเป็นกลุ่มที่ปรับตัว Underperform ตลาดมากที่สุด แถมมีระดับของการปรับตัวลงระหว่างทางมากที่สุด และยังเป็นกลุ่มที่ใช้เวลาฟื้นตัวนานที่สุดอีกด้วย” นายณัฐชาตกล่าว

สำหรับทิศทางราคาหุ้นรายตัวนั้น หากย้อนดูในครั้งก่อนจะพบว่า ราคาหุ้น 3 ตัวหลักในกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง CENTEL, ERW, MINT ต่างปรับตัวลงอย่างชัดเจน โดยลดลงต่ำสุดที่ระดับ 23%, 29%, และ 19% ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าภาพในครั้งนี้คงไม่ต่างกับคราวที่แล้ว ที่สำคัญ เหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในรอบนี้ ดันมาเกิดขึ้นในช่วงเวลา High season ของการท่องเที่ยวอย่างช่วงตรุษจีนอีกด้วย

ทั้งนี้ สำหรับช่วงเวลาที่น่าสนใจสำหรับการกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวนี้ มองว่าจุดซื้อที่ดีที่สุดคือรอให้ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) มีการประกาศควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ได้อย่างเป็นทางการก่อน คล้ายๆกับเหตุการณ์ในปี 2003 ที่ราคาหุ้น CENTEL, ERW, MINT ต่างปรับตัวสูงขึ้นได้ถึง 30-60% ในช่วงเวลา 6 เดือนหลังจากการแพร่ระบาดของโรค SARS สิ้นสุดลง

ท้ายสุด นายณัฐชาต กล่าวว่า สำหรับหุ้นกลุ่มที่อาจพอเก็งกำไรได้ในช่วงเวลานี้ ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าไวรัสโคโรน่าดังกล่าวจะถูกควบคุมได้ ก็คือกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโรค SARS เมื่อปี 2545-2546 ถือเป็นกลุ่มที่ปรับตัว Outperform ตลาดได้มากที่สุด โดยให้ผลตอบแทนสูงถึง 76% ทีเดียว