ราคาทองคำ ช่วงก่อนและหลังเทศกาลตรุษจีน

คอลัมน์สถานีลงทุน
โดย ธนรัชต์ พสวงศ์ ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

ราคาทองคำตั้งแต่ต้นปี’63 ปรับตัวขึ้นแรงจนทะลุ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ และทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีที่ 1,611 ดอลลาร์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากที่สหรัฐใช้ปฏิบัติการโจมตีอากาศส่งผลให้ผู้บัญชาการระดับสูงของอิหร่านเสียชีวิต ความตึงเครียดดังกล่าวเริ่มทวีมากขึ้นเมื่ออิหร่านได้ยิงขีปนาวุธตอบโต้ ซึ่งสร้างความกังวลต่อทั่วโลกเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ราคาทองคำเริ่มเกิดแรงเทขายออกมาจากสถานการณ์ตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากสหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่านแทนการใช้ปฏิบัติการทหาร รวมถึงการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 15 ม.ค. 63

ตกลงการค้าเฟสแรกสหรัฐ-จีน

สหรัฐและจีนได้ลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกแล้ว เมื่อ 15 ม.ค. โดยสหรัฐลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลงครึ่งหนึ่งจาก 15% เหลือ 7.5% วงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ และชะลอการเก็บภาษีสินค้าจีนมูลค่า 1.6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับการที่จีนต้องซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในเวลา 2 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ดี สหรัฐจะยังเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 25% วงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ตลาดยังกังวลถึงการเจรจาในเฟส 2 ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ทั้งนี้ รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐ เปิดเผยว่า ข้อตกลงการค้าเฟส 2 ในอนาคตจะนำไปสู่การลดภาษีสินค้าจีนที่เหลืออยู่ ซึ่งการเจรจาอาจจะแบ่งเป็นเฟส 2A, 2B, 2C

เส้นตายเวลา Brexit 31 ม.ค.นี้

นายบอริส จอห์นสัน หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษอีกครั้ง ก็ยังพยายามผลักดันร่างกฎหมายข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ขณะนี้ก็เริ่มมีสัญญาณที่ผ่อนคลายมากขึ้นจากที่สภาล่างของอังกฤษได้ผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษประสบความล้มเหลวในการผลักดัน Brexit ผ่านการรับรองของรัฐสภาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ระบุว่าอังกฤษจะแยกตัวจาก EU วันที่ 31 ม.ค. 63 และจะสรุปข้อตกลงการค้ากับ EU ภายในสิ้นปี”63 และห้ามการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านอังกฤษเกินกว่าเดือน ธ.ค. 63

ทั้งนี้ ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน อังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้กฎหมายของ EU เหมือนประเทศสมาชิกอื่น ๆ แต่อังกฤษจะไม่มีสิทธิ์ส่งตัวแทนเข้าไปนั่งในองค์กรต่าง ๆ ของ EU ซึ่งหากร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภาขุนนางหรือสภาสูงอังกฤษ ข้อตกลง Brexit จะเป็นกฎหมายทันการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปใน 31 ม.ค. ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ที่สภาสูงจะผ่านเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว ส่งผลให้อาจเกิดแรงเทขายทองคำออกมาจากความกังวลในประเด็น Brexit ที่ผ่อนคลายลง

ในสถิติที่ผ่านมา ราคาทองคำจะมีแรงซื้อเข้ามาก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากทองคำแสดงถึงความมั่งคั่งและความมงคลของชาวจีนในการเริ่มต้นปีใหม่ ทั้งนี้ ราคาทองคำหลังตรุษจีนส่วนใหญ่ปรับลดลง ยกเว้นบางปีที่มีประเด็นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกเข้ามาเป็นปัจจัยสนับสนุน อย่างเช่น ในปี”60-61 ที่ราคาทองคำหลังเทศกาลตรุษจีนยังปรับขึ้นได้ต่อ ซึ่งในปี”60 มีประเด็นทางการเมืองที่มีคำสั่งห้ามประชาชนจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ ปี”61 มีสถานการณ์ในซีเรียและสถานการณ์ตึงเตรียดในคาบสมุทรเกาหลี ส่วนปีนี้มีความไม่แน่นอน ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่อาจจะกลับมาหนุนราคาทองคำได้


ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดือน ม.ค. คาดจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมอาจจะไม่ได้มีผลต่อราคาทองคำ ระยะสั้นราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน ซึ่งราคาทองคำ spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,580 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยแนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำ spot ปรับตัวลงมาบริเวณ 1,520-1,530 ดอลลาร์/ออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคา spot ที่ 1,560 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 1,580 ดอลลาร์/ออนซ์