ค่าเงินบาท​อ่อนค่าที่​ 30.51 บาท/ดอลลาร์​ นักลงทุนห่วงศก.โลกชะงักหลังจีนเฝ้าระวังไวรัส

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้า​นักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า​ เงินบาทเปิดเช้านี้​ (24​ ม.ค.)​ อ่อนค่าที่ระดับ 30.51 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน ที่ระดับ 30.49 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ โดย​กรอบเงินบาทวันนี้อยู่​ที่​ 30.45-30.55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​

ในคืนที่ผ่านมา​ ตลาด​หุ้นสหรัฐ S&P500 ยังคงฝืนปรับตัวขึ้นได้ 0.11% สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรป​ Euro Stoxx 600 ที่ปรับตัวลง 0.87% ตามโมเมนตัมเชิงลบของดัชนีหุ้นจีนในวันก่อน

เรื่องที่นักลงให้ความสนใจมากที่สุด คือความกังวลกับเศรษฐกิจที่อาจหยุดชะงัก หลังจากที่จีนเพิ่มการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัส นักลงทุนจึงอยู่ในโหมดปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) กดดันให้อัตราผลตอบแทน​พันธบัตร​ (บอนด์ยีลด์)​ ทั่วโลกทรงตัวในระดับต่ำ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง 1.85% ขณะที่ราคาทองคำก็ย่อตัวลง 0.31% ด้วย

ฝั่งนโยบายการเงิน ล่าสุดธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงนโยบายการเงินทั้งหมด และแถลงว่าอาจมีการเปลี่ยนเป้าหมายทางการเงินในอนาคต  แต่ตลาดตีความว่า ECB จะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง เงินยูโรจึงปรับตัวลงเล็กน้อยมาที่ระดับ 1.10 ดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์เยอรมันอายุ 10 ปีปรับตัวลง 4.8bps มาที่ระดับ -0.30%

“ด้านตลาดการเงินไทย ค่าเงินบาทยังได้รับความสนใจอยู่มาก โดยระหว่างวันอ่อนค่าทะลุระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์และสามารถยืนได้ เนื่องจากการเข้าดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ผู้ส่งออกไม่ต้องรีบทำธุรกรรม รวมไปถึงทิศทางตลาดทุนที่ปิดรับความเสี่ยง พร้อมกับมุมมองของนักลงทุนว่า ธปท.ต้องลดดอกเบี้ยต่อในอนาคต” ด​ร.จิ​ติ​พล​กล่าว​

ด​ร.จิติ​พล​ กล่าวอีกว่า​  อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรจับตาทิศทางของเงินดอลลาร์มากขึ้น เพราะการเมืองสหรัฐเริ่มกลับมาเข้มข้น ถ้าประเด็นการถอดถอนประธานาธิบดี ส่งผลต่อคะแนนความนิยมของโดนัลด์ ทรัมป์ หรือผู้สมัครฝั่งเดโมแครต ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นความผันผวนของเงินดอลลาร์กลับมาเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดเงินในอนาคต