“บล.กรุงศรี” ชี้ช่องลงทุนหุ้น “MINT” อานิสงส์ตลาดคลายกังวลไวรัสโคโรน่าชั่วคราว

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 31 ม.ค.63 ว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางถึงบวก โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) จะดีดกลับ (Rebound) ขึ้นทดสอบ 1,530 – 1,535 จุด ก่อนจะสลับอ่อนตัวตามบรรยากาศ (Sentiment) เชิงบวกจากตลาดหุ้นรอบบ้านที่ฟื้นตัวตอบรับกับปัจจัยที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกเพื่อยกระดับความร่วมมือในการยับยั้งการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ WHO ยังไม่แนะนำให้ประเทศทั่วโลกใช้มาตรการจำกัดด้านการค้ารวมถึงการเดินทางไปประเทศจีนโดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนมีความคาดหวังว่าจะสามารถรับมือกับเชื้อไว้รัสนี้ได้

ขณะที่แรงซื้อเก็งกำไรในหลายบริษัทที่ประกาศซื้อหุ้นคืน เช่น KBANK, SPALI, CK และ TPIPL จะเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนในวันนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะมีสลับอ่อนตัวลงจากความกังวลกระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่ขายสุทธิต่อเนื่อง 6 วันราว 9.2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อดัชนี

ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy) ในกลุ่มส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ KCE, HANA และ DELTA รวมถึงกลุ่มส่งออกอาหาร ได้แก่ CPF, TFG และ TU อานิสงส์ทิศทางเงินบาทอ่อนค่า นอกจากนี้ แนะนำกลุ่มหุ้นปลอดภัย (Defensive) ซึ่งคาดว่างบไตรมาส 4/62 จะออกมาดีและดีต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่ GPSC, GULF, JMT, CPF, SAWAD, MTC, BTS, BEM, INTUCH, ADVANC, OSP และ CBG

ขณะที่หุ้นเด่นแนะนำวันนี้ ได้แก่ MINT (ราคาปิดล่าสุด 31.00 แนะนำซื้อเก็งกำไร/เป้า 44.50 บาท) โดยชี้ว่าตลาดคลายความกังวลต่อปัญหาไวรัสโคโรน่าชั่วคราว หลังจากที่ WHO ไม่จำกัดการเดินทางและการค้ากับจีน ดังนั้น จึงช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในช่วงสั้น ฝ่ายวิจัยจึงเลือก MINT เป็นหุ้นเด่น (Top Pick) ของกลุ่ม นอกจากนี้ หากสถานการณ์เลวร้าย MINT ถือเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคนี้น้อยที่สุดในกลุ่มอีกเช่นกัน


ถัดมา INTUCH (ราคาปิด 55.75 บาท ซื้อ/เป้า 81.00 บาท) โดย INTUCH เหมาะสำหรับหลบภัยในภาวะตลาดผันผวน เนื่องจากจ่ายปันผลสม่ำเสมอและให้อัตราเงินปันผล (Dividend Yield) สูง ประมาณ 4.5% ต่อปี สูงกว่าเมื่อเทียบกับ ADVANC ที่ 3.5% ขณะที่ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าเงินลงทุน (NAV) ใน ADVANC และ THCOM โดยมีส่วนลด (Discount) จากมูลค่า NAV ถึง 28% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 20-25%