แบงก์พาณิชย์ทยอยลดดอกเบี้ย ช่วยธุรกิจ-รายย่อย รับผลกระทบเศรษฐกิจทรุด-ไวรัสโคโรน่า

ธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ตามหลังกนง. “กสิกรไทย”นำร่องประกาศลดทันทีรายแรก “ไทยพาณิชย์”ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ช่วยลูกค้าธุรกิจ-รายย่อย ฟาก”ธอส.”ลดดอกกู้ซื้อบ้านลง  0.125% – 0.250% ต่อปี ยันต่ำสุดในระบบ “กรุงไทย” ลด MLR 0.25% พร้อมออกเงินฝากประจำพิเศษ ดอกเบี้ย 1.40%

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(5ก.พ.) หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์​ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง​ 0.25% ต่อปี จากเดิม 1.25% ต่อปี​ มาอยู่ที่ 1% โดยให้มีผลทันที เนื่องจากประเมินว่า​เศรษฐกิจ​ไทยปี​ 2563​ มีแนวโน้มขยายตัว​ต่ำกว่าที่ประมาณ​การไว้​ จากผลกระทบไวรัส​โคโรน่า​ งบประมาณปี2563​ล่าช้า​ และปัญหาภัย​แล้ง​นั้น ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทยอยปรับลดดอกเบี้ยตามมา

กสิกรไทยนำร่องรายแรก 

กสิกรไทย เป็นธนาคารแรกที่นำร่องประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ตามมาทันที โดยนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยนำร่องปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR สำหรับลูกค้าบุคคล และลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ลง 0.25% จากเดิม 6.87% เป็น 6.62% เพื่อตอบสนองทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในการสนับสนุนและส่งเสริมภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่มีความเปราะบางจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคล

สำหรับในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์บุคคลธรรมดา แต่มีการปรับลดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์นิติบุคคลลง 0.10% – 0.12% และเงินฝากประจำลง 0.05%-0.25% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป

ไทยพาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% มีผล7ก.พ.

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีความห่วงใยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่ยังยืดเยื้อ โดยออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจและลูกค้ารายย่อยต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ประกาศมาตรการเร่งด่วนสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทั่วประเทศด้วยการพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 6 เดือน

โดยในมาตรการเพิ่มเติมนี้ ธนาคารมีเจตนารมณ์ที่จะช่วยลูกค้าในการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าและสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นโดยเร็ว และเพื่อลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยแก่ลูกค้า ธนาคารจึงประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท MLR ลง 0.25% มาอยู่ที่ 5.775%

สำหรับในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์บุคคลธรรมดา แต่มีการปรับลดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์นิติบุคคลลง 0.15% – 0.25% และเงินฝากประจำลง 0.05%-0.25% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ใหม่ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป

ธอส.ลดดอกกู้บ้านลง 0.125%-0.250%

ทางด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในด้านดอกเบี้ยให้กับลูกค้าประชาชน พร้อมทั้งมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.125% – 0.250% ต่อปี

ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จาก 6.000% ต่อปี ลดลงเหลือ 5.875% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 6.500% ต่อปี ลดลงเหลือ 6.375% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้เบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 6.750% ต่อปี ลดลงเหลือ 6.500% ต่อปี กำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่ต่ำที่สุดในระบบสถาบันการเงินในปัจจุบัน

ออมสินประกาศลด 0.25% ทั้ง MRR และ MOR

 

ด้านดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารฯ ได้ปรับลดในอัตรา 0.25% ในประเภทเงินฝากประจำ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ โดยยังคงภารกิจหลักส่งเสริมการออม ไม่ปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากประเภทเผื่อเรียก เงินฝากกระแสรายวันพิเศษ ซึ่งมีลูกค้ารายย่อยฝากเงินและใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเงินฝากสลากออมสินทุกประเภท ซึ่งมีผู้ฝากกว่า 1.3 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 60% ของยอดเงินฝากรวม ยังคงดอกเบี้ยในอัตราเดิมต่อไป

“ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชน ภาวะภัยแล้ง ความล่าช้าในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2563 โดยเฉพาะเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดไวรัสโคโรน่า ธนาคารออมสินจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปรับลดดอกเบี้ยในครั้งนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนและลูกค้าของธนาคารฯ ได้”ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าว

กรุงไทย ลด MLR 0.25% พร้อมออกเงินฝากประจำพิเศษ ดอกเบี้ย 1.40%

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารตระหนักถึงการมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่มีความเปราะบาง จากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ เพื่อตอบสนองทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการแบ่งเบาภาระลูกค้าและผู้ประกอบการทุกประเภท รวมทั้งลูกค้าเอสเอ็มอีและลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ ธนาคารจึงได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ลง 0.25% ต่อปี จากอัตรา 6.025% ต่อปี เหลืออัตรา 5.775% ต่อปี

โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป ซึ่งธนาคารหวังว่า การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยลดภาระต้นทุนทางการเงิน ตลอดจนร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทยโดยรวม

ขณะเดียวกัน ธนาคารคำนึงถึงลูกค้าที่มีรายได้จากการออมให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเท่าเดิม และเพื่อให้ลูกค้ามีกำลังในการใช้จ่าย ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว โดยล่าสุด ธนาคารได้ออกเงินฝากประจำพิเศษ กรุงไทยเบิร์ธเดย์ ระยะเวลาฝาก 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.40%ต่อปี