“สมคิด” สั่งคลังกู้ลงทุนทดแทนงบฯช้าลากยาวถึง พ.ค.

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี 

“สมคิด” สั่งคลังกู้ลงทุนทดแทนพ.ร.บ.งบปี’63 ช้าลากยาวถึง พ.ค. พร้อมสั่งธปท. เข้าไปดูแลแบงก์พาณิชย์ปรับดอกเบี้ยเงินกู้ ด้านอุตตม ชี้กฎหมายมีช่องสามารถกู้ยืมเงินมาลงทุนโครงการใหม่ได้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.63) ว่า คาดว่างบประมาณปี 63 จะสามารถเบิกจ่ายใช้เงินได้ในช่วงเดือนพ.ค.63 อย่างไรก็ตาม แม้งบประมาณจะออกมาล่าช้า แต่รัฐบาลเตรียมรับมือแล้ว เบื้องต้น ได้มีการเตรียมแผนร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อจ้างของงบลงทุนใหม่ จะให้กระทรวงการคลังไปหาแนวทางกู้เงินมาลงทุน เพื่อให้แผนโครงการลงทุนใหม่ของรัฐไม่สะดุด รวมถึงให้พิจารณาออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน มีผลตอบแทนสูง ประมาณ 3% มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากที่ให้แค่ 1% เพื่อจูงใจให้ภาคประชาชนเข้ามาระดมทุนในโครงการ

ขณะเดียวกันให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปดูแลให้แบงก์พาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามแนวทางที่ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายลง อยู่ที่ระดับ 1% เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการกล้าลงทุน ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้

นอกจากนี้ ยังได้ฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปศึกษาแนวทางออกโครงการชิมช้อปใช้เฟส 4 เพื่อหาวิธีการจูงใจให้คนไทยออกไปเที่ยวไทย พยุงการท่องเที่ยว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล ซึ่งในภาวะเช่นนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ถึง 2% ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว หากเทียบกับหลายประเทศ ที่เติบโตเพียง 1%

อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ด้าน นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การกู้ยืมเงินมาลงทุนโครงการใหม่นั้น กฎหมายมีช่องให้สามารถทำได้ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารหนี้สาธารณะ ขณะที่การออกพันธบัตร เพื่อระดมทุนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง หากพ.ร.บ.งบประมาณยังล่าช้าอยู่ อย่างไรก็ดี จะต้องรอติดตามเรื่องคำวินิจฉัยของศาลก่อน ยืนยันว่า แม้ศาลจะวินิจฉัยออกมาเช่นไร กระทรวงการคลังก็มีแนวทางเดิน

ส่วนการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาสนับสนุนการลงทุน เบื่องต้น มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งจะออกกองทุนมาให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ สำหรับโครงการชิมช้อปใช้ เฟส 4 ขณะนี้ผู้เกี่ยวข้องกำลังการพัฒฒารูปแบบ เบื้องต้น จะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งการอุปโภคบริโภค พร้อมยึดโยงการท่องเที่ยว ยืนยันว่า ในเดือนก.พ.63 นี้จะได้ความชัดเจนในรูปแบบ และจะออกมาตรการก่อนช่วงสงกรานต์แน่นอน