“รูดปรื๊ด” จ่ายหนี้ขั้นต่ำ 3-5% รับลูก ธปท.ผ่อนภาระลูกค้าฝ่าวิกฤตไวรัส

“บัตรเครดิต-กดเงินสด” ลดเพดานชำระหนี้ขั้นต่ำ ขานรับนโยบายแบงก์ชาติอุ้ม “รายย่อย-เอสเอ็มอี” ฝ่าวิกฤตไวรัสโคโรน่า “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ให้ “พักหนี้ 3 เดือน” จากนั้นผ่อนบัตรเครดิตขั้นต่ำ 5% ส่วนบัตรกดเงินสดผ่อนขั้นต่ำแค่ 3% ถึงสิ้นปี’63 หวังช่วยรายย่อย “พนักงานโรงแรม-คนทำงานในธุรกิจท่องเที่ยว” ราว 1 แสนราย “กสิกรไทย” งัดแพ็กเกจช่วยลูกค้า เปิดทางแปลงหนี้บัตรเครดิตเป็น “เทอมโลน” ยืดเวลาผ่อนนาน 3 ปี-คิดดอกเบี้ยต่ำกว่ารูดปรื๊ด

นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงกิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในฐานะประธานชมรมบัตรเครดิต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ชมรมบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย ได้ประชุมหารือแนวทางการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ขอความร่วมมือสถาบันการเงินช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบผ่านมาตรการปรับโครงสร้างหนี้และลดภาระหนี้บัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล

โดยเบื้องต้น ในส่วนบัตรเครดิต ผู้ให้บริการแต่ละรายจะออกมาตรการในลักษณะคล้ายกัน เช่น การลดวงเงินผ่อนชำระขั้นต่ำต่องวดเหลือ 5% จากเดิม 10% รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่แต่ละสถาบันการเงินจะไปพิจารณากลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการช่วยเหลือ และกำหนดมาตรการช่วยเหลือตามความเหมาะสมของกลุ่มลูกค้าของแต่ละธนาคาร

สำหรับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เบื้องต้น จะมีมาตรการพักชำระหนี้ 3 เดือน (skip payment) หลังจากนั้น จะลดวงเงินผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 5% ในส่วนลูกค้าบัตรเครดิต ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล (บัตรกดเงินสด) ลดผ่อนขั้นต่ำเหลือ 3% จากเดิม 5% จนถึงสิ้นปี 2563

ขณะที่แนวทางการผ่อนผันเพดานวงเงินชั่วคราวฉุกเฉินของสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นอีกเรื่องที่ ธปท.ขอความร่วมมือนั้น เป็นนโยบายที่ทำเป็นปกติอยู่แล้ว โดยหากลูกค้ามีกรณีฉุกเฉิน เช่น ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าโรงพยาบาล ธนาคารก็พิจารณาขยายวงเงินให้ลูกค้าอยู่แล้ว ซึ่งวงเงินที่จะขยายขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้ของลูกค้าจะต้องชัดเจน โดยจะพิจารณาเป็นรายกรณี

“ลูกค้าที่จะได้รับมาตรการช่วยเหลือจะต้องเป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มการท่องเที่ยว เช่น พนักงานโรงแรม เป็นต้น และจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป โดยสำรวจเบื้องต้น เรามีลูกค้าที่น่าจะได้รับการช่วยเหลือประมาณ 1 แสนราย” นายฐากรกล่าว

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารมีแพ็กเกจมาตรการ เพื่อช่วยทั้งลูกค้ารายย่อยและธุรกิจ โดยกลุ่มรายย่อย จะลดวงเงินผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 5% และสามารถเปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตแปลงมาเป็นสินเชื่อแบบมีระยะเวลา (term loan) ที่ให้ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต โดยธนาคารจะดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับลูกค้า

ส่วนกลุ่มเอสเอ็มอี ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้ คือ การพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน พร้อมสนับสนุนวงเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูกิจการ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นต้น

“เราเตรียมแพ็กเกจช่วยเหลือลูกค้าอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ธุรกิจน่าจะมีผลกระทบหนักกว่ารายย่อย ซึ่งเราก็พยายามช่วยลูกค้าให้ครอบคลุม และ ธปท.ก็พยายามผ่อนคลายหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้แบงก์ทำได้ง่ายขึ้น แต่เรื่องของบัตรเครดิต อาจจะยากหน่อย หากลูกค้าถือบัตรหลายบัตร และจะขอแปลงมาเป็นเทอมโลน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องสร้างข้อตกลงให้ชัดเจน” นายสุรัตน์กล่าว

นายนันนวัฒน์ โชติวิจิตร กรรมการบริหาร บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า บริษัทได้ช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง หากได้รับผลกระทบและไม่สามารถชำระหนี้ได้ แต่บริษัทไม่สามารถลดวงเงินผ่อนชำระขั้นต่ำได้ หาก ธปท.ไม่ได้ออกหลักเกณฑ์เป็นทางการ อย่างไรก็ดี บริษัทจะช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ (restructuring loan) ให้ลูกค้าที่มีปัญหา โดยแก้ไขสัญญาการผ่อนชำระใหม่ ซึ่งจะปรับลดวงเงินผ่อนชำระขั้นต่ำให้ลูกค้าเป็นรายกรณี ทั้งนี้ อัตราการชำระใหม่จะอยู่ที่ 3-5% ของค่างวดเดิม แต่ปัจจุบันยังไม่พบสัญญาณการเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้