หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดภาคเช้า +7.01 จุด ดัชนี SET อยู่ที่ระดับ 1,540 จุด

แฟ้มภาพ

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 ก.พ.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,539.78 จุด ปรับขึ้น +7.01 จุด หรือคิดเป็น +0.46% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 27,568 ล้านบาท โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,535.19-1,540.46 ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่

1. BAM มูลค่าซื้อขาย 2,120.71 ล้านบาท ราคาหุ้น +1.75 (+5.38%)
2. GPSC มูลค่าซื้อขาย 1,456.88 ล้านบาท ราคาหุ้น -1.50 (-1.95%)
3. BEAUTY มูลค่าซื้อขาย 1,191.12 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.18 (+6.87%)
4. IVL มูลค่าซื้อขาย 1,166.60 ล้านบาท ราคาหุ้น -1.00 (-3.20%)
5. KCE มูลค่าซื้อขาย 1,095.51 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.30 (+1.21%)
6. GULF มูลค่าซื้อขาย 826.32 ล้านบาท ราคาหุ้น -2.50 (-1.30%)
7. ADVANC มูลค่าซื้อขาย 781.50 ล้านบาท ราคาหุ้น +5.00 (+2.53%)
8. BGRIM มูลค่าซื้อขาย 732.69 ล้านบาท ราคาหุ้น -1.25 (-2.16%)
9. CPALL มูลค่าซื้อขาย 728.50 ล้านบาท ราคาหุ้น -1.25 (-1.75%)
10. AOT มูลค่าซื้อขาย 725.93 ล้านบาท ราคาหุ้น -0.25 (-0.35%)

ขณะที่ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +3.90 จุด หรือ +0.38% อยู่ที่ 1,030.58 จุด ส่วนตลาด mai ปรับขึ้น +2.59 จุด หรือ +0.85% อยู่ที่ระดับ 307.45 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 14 ก.พ.63 ว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลาง โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) จะแกว่งตัว 1,525 – 1,540 จุด จากปัจจัยบวกและลบที่คละเคล้า ได้แก่ ความกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่พุ่งขึ้นมากหลังจีนเปลี่ยนเกณฑ์ใหม่ในการนับจำนวนผู้ติดเชื้อจะเป็นลบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและทิศทางการลงทุน ซึ่งกดดันให้แนวโน้มเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ยังคงไหลออกต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นจากความคาดหวังว่ากลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะลดกำลังการผลิตลงอีก 600,000 บาร์เรล/วัน จะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ปัจจัยบวกภายในจากมติสภาฯ โหวตเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ในวาระ 2-3 และคาดว่าจะเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงกลาง มี.ค.จะหนุนให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นได้

ทั้งนี้ แนะนำติดตามการประมูลคลื่น 5G ในย่านความถี่ 700 MHz 1800 MHz 2600 MHz และ 26 GHz ในวันที่ 16 ก.พ.นี้