เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย หุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันจากไวรัสโควิด-19

แฟ้มภาพ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทขยับแข็งค่าเล็กน้อย โดยเงินบาทได้รับแรงหนุนในช่วงแรกจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับสกุลเงินเอเชียในภาพรวมปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังมีรายงานที่สะท้อนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่) ในจีนเพิ่มในอัตราที่ชะลอลง อย่างไรก็ดี ข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในมณฑลหูเป่ย ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากไวรัสดังกล่าว ทำให้สกุลเงินเอเชีย รวมถึงเงินบาท กลับมาเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์

ในวันศุกร์ (14 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ 31.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 31.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ก.พ.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (17-21 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.00-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของไทย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มภาคธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ (เบื้องต้น) ในเดือนก.พ. ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดขายบ้านมือสอง ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. ตลอดจนบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 28-29 ม.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,526.30 จุด ลดลง 0.58% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 53,922.77 ล้านบาท ลดลง 12.81% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.29% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 304.82 จุด

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงกดดันในหุ้นหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร หลังมีรายงานข่าวว่าธปท. เตรียมออกเกณฑ์คำนวณค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ดีดตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ หลังตลาดคลายความกังวลบางส่วนต่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (โคโรนาสายพันธุ์ใหม่) ดัชนีฯ กลับมาย่อตัวลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังจำนวนผู้เสียชีวิตและติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในจีนพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลต่อผลกระทบของสถานการณ์ดังกล่าว

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (17-21 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,515 และ 1,500 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,540 และ 1,550 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของไทย ผลประกอบการไตรมาส 4/62 ของบจ.ไทย และสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ บันทึกการประชุมเฟด ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. รวมถึงดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนก.พ. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนก.พ. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน