นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยในระหว่างร่วมคณะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เยือนประเทศญี่ปุ่น ว่า หลังจากที่ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต(สศช.) ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2562 ขยายตัว 1.6% และตลอดทั้งปี 2562 ขยายตัว 2.4% ซึ่งต่ำกว่าที่ประเมินไว้
“มีปัญหาการส่งออกและการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปี 2563 มีความล่าช้า กระทรวงการคลังจึงเตรียมออกชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในกลางเดือนมีนาคมนี้เพื่อให้แรงขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ทันทีในเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบด้วย 3 ด้านคือ การท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุน”
สำหรับการท่องเที่ยว จำเป็นต้องมีมาตรการออกมากระตุ้น และจูงใจให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีแรงงานอยู่ในภาคนี้จำนวนมากและกำลังได้รับผลกระทบอย่างแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการบริโภคคือ โครงการชิมช้อปใช้ เฟส 4
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
“การกระตุ้นการลงทุนจะต้องเป็นชุดใหญ่พอสมควร โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐจะต้องมีเงินลงทุนออกมาทันทีในเดือนเมษายน โดยขณะนี้ได้ประสานกับสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลางและหน่วยงานราชการต่างๆให้เตรียมการเรื่องของการเบิกจ่าย ให้ทำทุกอย่างรวมทั้ง เตรียมการจัดซื้อจัดจ้างไว้ล่วงหน้า เมื่องบประมาณรายจ่ายประจำปี 25633 สามารถเบิกจ่ายได้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นต้นเดือนเมษายนจะได้มีเงินลงเข้าสู่ระบบในทันที” รมว. คลัง กล่าว
ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะติดตามให้มีการลงทุนรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ทำได้ดีมาแล้วในไตรมาสที่ 4/2562 ขยายตัวถึง 34% และได้ประสานกับสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่ดูโครงการขนาดใหญ่ระดับ 1000-2000 ล้านบาท ส่วนการลงทุนภาคเอกชน ขอให้ใช้มาตรการที่รัฐบาลออกมาก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการหักลดหย่อนภาษีจากการจัดซื้อหรือปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ได้ถึง 2 เท่า และการปรับปรุงซ่อมแซมโรงแรม ที่สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้มากขึ้นด้วย
