นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ระหว่างเดินทางเยือนญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17 ก.พ 63 ถึงผลการประมูลคลื่นความถี่ 5G ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดการประมูลคลื่นความถี่ไป รวมเป็นเงินทั้งหมด 100,521.17 ล้านบาท คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องของภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจที่ประมูล 5G ได้อีกไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าเข้าสู่การพัฒนาที่ใช้ 5G เป็นพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนเงินที่ประมูลได้นั้นรัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณานำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของประเทศอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการพัฒนาดิจิทัล เพราะเงินได้มาจากเศรษฐกิจดิจิทัลเช่นการพัฒนาดิจิทัลในชุมชน การพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (สตาร์ทอัพ) ซึ่งในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายอุตตมสาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปดูข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไร
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
ด้าน นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เงินที่มีการประมูล 5G ได้กว่า 1 แสนล้านบาท รัฐควรมีการนำไปใช้ประโยชน์ต่อในเรื่องการพัฒนาดิจิทัลโดยเฉพาะการพัฒนาดิจิทัลในชุมชนซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่อนาคตจะเกี่ยวข้องกับเรื่องดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะไปดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับการใช้เงินที่ได้จากการประมูลคลื่น 5G ว่าจะนำเงินก้อนนี้กลับไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลได้อย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับตอนที่ได้เงินจากการประมูล 4จีครั้งนั้นได้เอาเงินเข้าเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด ซึ่งพอเงินเข้ามาแล้วเอาไปใช้จ่ายแบบกระจายทุกเรื่อง แต่ครั้งนี้ต้องการให้ใช้ตรงวัตถุประสงค์ทางด้านดิจิทัล จึงต้องไปดูว่ามีวิธีใดบ้าง ที่ทำได้
“วิธีที่จะทำได้มีหลายรูปแบบ เช่น อาจจะเก็บเงินไว้ที่ กสทช.เข้าไปไว้ใน กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ก็ได้แล้วจึงจัดสรรลงมาในโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาดิจิทัลของประเทศโดยตรง” นานอุตตม กล่าว