“ออมสิน” เปิดใหญ่ Thailand Street Food By GSB นำร่องงาน “ช้อปเพลิน เดินชิม @อารีย์”

แฟ้มภาพ

“ออมสิน” เปิดใหญ่ Thailand Street Food By GSB นำร่องงาน “ช้อปเพลิน เดินชิม @อารีย์” ส่งเสริมสร้างรายได้ อุดหนุนเศรษฐกิจฐานราก ผลักดันเศรษฐกิจไทย พร้อมเงินกู้แก่ผู้ค้า “สินเชื่อ Street Food” วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0.40-0.60 บาท/เดือน ผ่อนชำระสูงสุด 10 ปี

วันนี้ (21 กันยายน 2560) ณ ซอยอารีย์ (พหลโยธิน 7) ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรรวม 5 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน กรุงเทพมหานคร กรมอนามัย อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิเพื่อสถาบันอาหาร และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในโครงการ Thailand Street Food By GSB เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้ ด้วยการยกระดับผู้ค้าขายอาหารริมทาง และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อย ให้ได้มีโอกาสสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งทางอาชีพ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยได้เปิดตัวโครงการนี้ ณ ซอยอารีย์สัมพันธ์ เป็นแห่งแรก ภายใต้ชื่องาน “ช้อปเพลิน เดินชิม @อารีย์” จัดต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน ระหว่างวันที่ 21 – 30 กันยายน 2560 และจะดำเนินกิจกรรมตามโครงการนี้ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศในโอกาสต่อไป

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า โครงการ Thailand Street Food By GSB เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่อยู่ในแผนงานของธนาคารฯ ในปีนี้ ที่จะตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง อีกทั้งยังเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของธนาคารฯ ในการเสริมสร้างความสุขและอนาคตที่มั่นคงของประชาชน รวมถึงธนาคารฯ ยังใช้กลไกทางด้านการเงินเป็นส่วนผลักดันขับเคลื่อนเพื่อสร้างโอกาสความมั่นคง มั่งคั่งทางอาชีพ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าขายอาหารริมทาง โดยเฉพาะในการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนจากธนาคารออมสินมากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของการสนับสนุน ผู้ค้าอาหารริมทางภายใต้โครงการ Thailand Street Food By GSB จะมีการขยายผลดำเนินกิจกรรมในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งที่เป็นการค้าริมทางและตลาดสด ตามแผนงานของธนาคารออมสิน ประกอบด้วยกิจกรรมดังนี้

1.การปรับปรุงด้านภูมิทัศน์และความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ค้าขายตามหลักสุขอนามัยที่ดี ส่งเสริมด้านโภชนาการที่เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสินกับกรุงเทพมหานคร และในส่วนของต่างจังหวัดจะร่วมมือกับองค์กรปกครองท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่เพื่อดำเนินการ

2.การให้ความรู้เพื่อการพัฒนาคุณภาพอาหารริมทาง โดยพันธมิตรของธนาคารที่เข้ามาร่วมสนับสนุนการดำเนินงานในครั้งนี้ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิเพื่อสถาบันอาหาร จะร่วมกันพัฒนาคุณภาพอาหารทั้งทางด้านโภชนาการและรสชาติของอาหาร ขณะที่กรมอนามัย จะให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการค้าขายอาหารริมทาง มีความรู้และดำเนินการให้ถูกหลักสุขอนามัย เพื่อประโยชน์ทั้งของผู้ค้าและผู้บริโภค รวมทั้งธนาคารยังมีพันธมิตรภาคเอกชน ซึ่งในขณะนี้มี บริษัททีดับเบิลยู มอเตอร์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถขายอาหารและเครื่องดื่มเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ โดยมีรถจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ค้าอาหารใช้ประกอบอาชีพในราคาพิเศษ

3.การรับรองรสชาติความอร่อย โดยธนาคารออมสินร่วมกับ รายการ กินเที่ยว อะราว เดอะ เวิลด์ จะมีป้ายสัญลักษณ์รับรองรสชาติความอร่อยของอาหารที่ผ่านเกณฑ์ให้แก่เจ้าของกิจการ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความนิยมให้แก่ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

4.การให้สินเชื่อแก่ผู้ค้าอาหารริมทางที่มีโอกาสในการปรับปรุงกิจการ หรือขยายกิจการตามความจำเป็น ซึ่งจะเป็นวงเงินหมุนเวียนที่สามารถใช้ได้ตามความจำเป็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ค้าอาหารริมทาง และผู้ค้าในตลาดสดทั่วประเทศ โดยมีวงเงินสูงสุดต่อรายถึง 3 ล้านบาท ชำระคืนได้นานถึง 10 ปี และจะขยายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

5.นำระบบ QR Code มาใช้ในการจ่ายเงิน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการรับ-จ่ายเงินแก่ทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค รวมทั้งยังช่วยสร้างประวัติทางการเงินให้แก่ผู้ค้าอาหารรายย่อย ให้สามารถเริ่มสร้างประวัติทางการเงินให้กับธนาคารเพื่อความมั่นคงของครอบครัว จะช่วยให้ผู้ค้าอาหารเริ่มมีเงินออมฝากไว้กับธนาคาร และหากมีความจำเป็นธนาคารจะใช้ประวัติทางการเงินอนุมัติสินเชื่อในเวลาที่รวดเร็วขึ้น

6. การส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติโดยใช้เอกลักษณ์และรสชาติของอาหารไทยในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในนานาประเทศโดยความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว จะให้การสนับสนุนในการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

โดยกิจกรรมสำคัญทั้ง 6 ด้านดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามนโยบาย 3 สร้าง ของธนาคารออมสิน ในการส่งเสริมและพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากโดยเน้นการพัฒนาตั้งแต่ในระดับครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วยนโยบายการสร้างอาชีพ สร้างตลาด และสร้างประวัติทางการเงิน

“อาหารไทยมีจุดเด่นและเป็นที่เลื่องชื่อมากมายหลายเมนู รวมถึงรูปแบบของอาหารที่มีหลากหลาย แต่ที่โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์สร้างความประทับใจและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือการเดินหาอาหารตามริมทางที่ค้าขายบนบาทวิถี ซึ่งมีทุกพื้นที่ ทั้งบริเวณตลาดสด ห้องแถวอาคารพาณิชย์ ย่านการค้าธุรกิจ ริมถนน จนถึงเข้าไปตามซอย จนเรียกกันติดปากว่า Street Food ซึ่งมีเสน่ห์ด้วยความสด อร่อย ซึ่งคนไทยคุ้นเคยกัน มานับร้อยปี ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์สำนักข่าว CNN ได้จัดอันดับให้กรุงเทพมหานครเป็นอันดับที่ 1 จากจำนวนทั้งสิ้น 23 เมือง ที่มีร้านค้าริมทางที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งหากเราคงความมีเสน่ห์นี้ไว้และปรับปรุงความสะอาดให้ดีขึ้น ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะยิ่งเป็นการสร้างมูลค่าอาหารให้กับผู้ขาย ขณะที่คนซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติจะยิ่งกล่าวถึงและสร้างความประทับใจไปอีกนานเท่านาน” ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าว

นายชาติชายกล่าวอีกว่า โครงการนี้ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 และนโยบายสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ของรัฐบาล โดยธนาคารออมสินให้ผู้ค้าขายร่วมเสริมสร้างประสบการณ์สังคมไร้เงินสด ผ่านการชำระเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด โดยใช้แอพพลิเคชั่น GSB Pay และ MyMo บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะช่วยให้ได้รับความสะดวกในการรับจ่ายเงินทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค พร้อมกันนี้ธนาคารออมสินยังส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงิน และสร้างโอกาสเข้าสู่แหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายกิจการ โดยได้เตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 10,000 ล้านบาท ด้วยการให้สินเชื่อ Street Food สำหรับผู้ค้าริมทาง หรือผู้ค้าในตลาดสดทั่วประเทศ ด้วยวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.40-0.60 บาทต่อเดือน ผ่อนชำระคืนได้นานสูงสุดถึง 10 ปี