คลังจัด 65 ทีมบี้ส่วนราชการเร่งเบิกจ่ายงบฯลงทุนปี’63

คลังตั้งเป้าเข็นเม็ดเงินภาครัฐปี’63 เข้าระบบ 3.32 แสนล้าน ทั้งรายจ่ายประจำปี-งบฯลงทุนรัฐวิสาหกิจ สำนักงบฯ กดปุ่ม 4 แสนล้านพร้อมเบิกจ่าย ขณะที่กรมบัญชีกลางจัด 65 ทีมเกาะติดทุกส่วนราชการเบิกจ่าย ลั่นงบฯปีเดียวต้องเบิก 100% เผย “สมคิด” สั่งติดตามเบิกจ่ายลงทุนเกิน 1 พันล้านบาทใกล้ชิด

นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงินรวม 3.2 ล้านล้านบาท บังคับใช้แล้ว มีงบฯลงทุนราว 4 แสนล้านบาท ที่จะสามารถเข้าสู่ระบบได้ทันที โดยมีประมาณ 3.05 แสนล้านบาท (17,503 รายการ/โครงการ) ที่ได้ลงนามในสัญญาก่อหนี้ผูกพันเรียบร้อยแล้ว และอีกกว่า 9.6 หมื่นล้านบาท (49,626 รายการ/โครงการ) กำลังจะลงนามในสัญญา ซึ่งเมื่อ พ.ร.บ.งบฯบังคับใช้แล้วก็สามารถลงนามได้ทันที

“ช่วงที่งบประมาณยังไม่ออก สำนักงบฯเคยออกหนังสือเวียนกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมจัดซื้อจัดจ้างไว้ตั้งแต่เดือน ก.พ.แล้ว ซึ่งตอนนี้งบฯที่จะเข้าระบบมีราว 4 แสนล้านบาท ก็ขึ้นกับว่าแต่ละหน่วยงานจะเบิกจ่ายตอนไหน”

นายพรชัย หาญยืนยงสกุล ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้ส่งหนังสือสั่งการให้ทุกส่วนราชการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเตรียมพร้อมไว้ ตั้งแต่ก่อนที่ พ.ร.บ.งบฯจะผ่านสภาฯแล้ว โดยให้เขียนระบุใน TOR เป็นเงื่อนไขว่า จะลงนามในสัญญาได้ก็ต่อเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณ หรือ พ.ร.บ.งบฯบังคับใช้แล้ว

ซึ่งขณะนี้กรมมีมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ โดยจัดทีมข้าราชการระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน 65 ทีม เข้าไปเกาะติดส่วนราชการ เพื่อรายงานความคืบหน้าของการเบิกจ่ายของแต่ละส่วนราชการ ซึ่งหากพบว่าการเบิกจ่ายส่วนไหนมีความล่าช้า ก็จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาอุปสรรค เพื่อให้การเบิกจ่ายทำได้ไม่ติดขัด โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนปีเดียวที่ต้องเร่งให้ได้ 100%

“ทีมเจ้าหน้าที่ของกรม จะเข้าไปร่วมประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายของแต่ละส่วนราชการ และทุก ๆ เดือน ข้อมูลการเบิกจ่ายทั้งหมดก็จะส่งมาที่กรม ซึ่งจะมีการสรุปในภาพรวมต่อไป โดยเป้าหมายการใช้จ่ายในปีนี้ยังตั้งเป้าทำให้ได้ 100% โดยรายจ่ายประจำคงไม่มีปัญหา แต่รายจ่ายลงทุนก็ต้องพยายามให้ได้มากที่สุด” นายพรชัยกล่าว

ส่วนการเบิกจ่ายงบฯลงทุนโครงการที่มีวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ในปีนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมบัญชีกลางร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ร่วมกันติดตาม

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ได้มีการประมาณการเม็ดเงินภาครัฐเข้าระบบเศรษฐกิจในปี 2563 ว่าจะมีทั้งสิ้น 3.32 แสนล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณปี”63 ทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน อยู่ที่ 2.97 ล้านล้านบาท และงบฯลงทุนรัฐวิสาหกิจอยู่ที่ 3.51 แสนล้านบาท

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจที่มีงบฯลงทุนใน พ.ร.บ.งบฯ มีอยู่ 24 แห่ง เป็นเงินทั้งสิ้น 13,025.7 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ พ.ร.บ.งบฯมีผลบังคับใช้แล้ว สคร.จะเข้าไปติดตามการเบิกจ่ายให้เกิดการลงทุนตามแผนได้เร็วขึ้น รวมถึงติดตามรัฐวิสาหกิจที่อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างอย่างใกล้ชิด

“เราจะประสานงานกับกรมบัญชีกลาง ในขั้นตอนที่อาจจะติดขัด เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น โดย สคร.จะเข้าไปดูแล ช่วยลดข้อโต้แย้งให้เหลือน้อยที่สุด หรือหากมีข้อโต้แย้งหรือมีการอุทธรณ์ ที่จะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างหยุดชะงัก สคร.ก็จะประสานงานร่วมกับกรมบัญชีกลาง เพื่อวินิจฉัยออกมาเร็วที่สุด”


นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประเมินรัฐวิสาหกิจ สคร. กล่าวว่า ช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2562 สคร.สามารถเร่งรัดเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจเข้าสู่ระบบได้ตามเป้าหมายที่ 1 แสนล้านบาท โดยการเบิกจ่ายหลังจากนี้ สคร.จะร่วมกับกรมบัญชีกลางติดตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณเกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อาทิ โครงการรถไฟไทย-จีน เป็นต้น รวมถึงเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฯลงทุนรัฐวิสาหกิจแบบฟรอนต์โหลด ทั้งนี้ ช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2562 มีการเบิกจ่ายไปแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท ขณะที่เดือน ม.ค. 2563 มีการเบิกจ่ายได้ราว 2.8-2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องเร่งอีก 7.2 หมื่นล้านบาท ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้