“FSMART” เล็งให้บริการถอนเงิน-เปิดบัญชีผ่านตู้บุญเติมภายในปี’63

หุ้น ‘FSMART’ ผู้ให้บริการตู้เติมเงิน ‘บุญเติม’ เตรียมให้บริการถอนเงิน-เปิดบัญชีผ่านตู้บุญเติมภายในครึ่งปีหลังของปี 2563 หลังปี 2562 เป็นตัวแทนรับฝากเงินให้แก่ 6 ธนาคาร รับรายได้กว่า 500 ล้านบาท

นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) ผู้ให้บริการตู้เติมเงินออนไลน์ “บุญเติม” เปิดเผยทิศทางการดำเนินการในปี 2563 ว่า ในปี 2563 ธุรกิจให้บริการทางการเงินและสินเชื่อครบวงจร (Banking Agent & Lending Business) จะเป็นธุรกิจดาวเด่นที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ โดยตั้งเป้ายอดการใช้งานเติบโตเพิ่มขึ้น 40-45% จากปีก่อนที่มีการใช้งานประมาณ 1.2 ล้านรายการ/เดือน และเตรียมเพิ่มจำนวนตู้รับฝาก-โอนอีก 2,000 ตู้จากปัจจุบันที่ 1.3 แสนตู้ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณเม็ดเงินที่โอนผ่านตู้บุญเติมเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่ 7,000 ล้านบาท

“ตอนนี้ลูกค้าที่ใช้บริการแบงกิ้งเอเย่นต์สามารถฝากเงินผ่านตู้บุญเติมได้อย่างเดียว แต่ภายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ลูกค้าจะสามารถถอนเงินและเปิดบัญชีได้คล้ายคลึงกับการใช้บริการตู้เอทีเอ็ม แต่มีการเก็บค่าธรรมเนียมประมาณ 30 บาท/ธุรกรรม ซึ่งปี 2562 ที่ผ่านมาเราได้รายได้จากการเป็นแบงกิ้งเอเย่นต์ประมาณ 500 ล้านบาท” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายพันธมิตรกับธนาคารพาณิชย์เพิ่มอีก 1 รายในการให้บริการแบงกิ้งเอเย่นต์ โดยในไตรมาส 4/62 ที่ผ่านมาบุญเติมได้เพิ่มการเป็นตัวแทนฝาก-โอนเงินให้อีก 3 ธนาคาร รวมเป็น 6 ธนาคารในปัจจุบัน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารไทยพาณิชย์

ขณะที่การให้บริการสินเชื่อ หลังจาก FSMART ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และนาโนไฟแนนซ์ในปี 2562 ที่ผ่าน ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ปล่อยสินเชื่อให้เฉพาะกับกลุ่มตัวแทนตู้บุญเติม พนักงานของตัวแทน และพนักงานของบริษัทในเครือ โดยดำเนินการปล่อยสินเชื่อไปแล้ววงเงินกว่า 100 ล้านบาท จากวงเงินที่วางไว้ 500-800 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มตัวแทนและพนักงานไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย โดยมีวงเงิน 5,000-50,000 บาท/คน และมีอัตราดอกเบี้ย 28% ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะเริ่มปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ก่อนในปีนี้ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่ 28% เช่นกัน ขณะที่สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มีแผนเริ่มดำเนินงานในปีถัดไป (2564)

“เบื้องต้นเราประเมินตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ไม่เกิน 2% และคาดว่าจะสามารถควบคุมได้ เนื่องจากบริษัทฯ สามารถหักเงินจากรายได้ต่อเดือนของตัวแทนและพนักงงานในเครือได้ทันที นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถหักค่าคอมมิชชั่นได้นาน 30 เดือนในกรณีที่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ โดยวงเงินปล่อยสินเชื่อปัจจุบันมาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ แต่หากธุรกิจสินเชื่อไปได้ดีก็อาจพิจารณากู้เงินกับสถาบันการเงินเพื่อนำมาปล่อยต่อไป” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

ในส่วนของธุรกิจส่งมอบสินค้าและบริการ (Distribution Platform Business) ผ่านการบริหารจัดการระบบตู้จำหน่ายอัตโนมัติในรูปแบบต่างๆ เช่น ตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม และตู้จำหน่ายสินค้า ในปี 2563 บริษัทฯ มีแผนวางตู้จำหน่ายกาแฟสดเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนตู้อัตโนมัติเพิ่มขึ้นราว 3,000-4,000 ตู้ จากเดิมอยู่ที่ 3,500 ตู้ ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับค่าบริหารจัดการและส่วนแบ่งจากยอดขายของแต่ละตู้ นอกจากนี้ FSMART ขยายธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจกระจายสินค้าให้กับร้านค้าปลีกชุมชน (โชห่วย) ที่อาศัยเครือข่ายของตัวแทนบุญเติม และพันธมิตรทางธุรกิจ โดยจะเริ่มดำเนินการประมาณไตรมาส 3/63 รวมถึงเตรียมติดตั้งตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติที่สามารถเติมเงินได้ ซึ่งมีแผนเพิ่มจุดติดตั้งตู้ทั้งหมดในปีนี้ 1,000 – 2,000 จุด

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับธุรกิจเติมเงินมือถือยังคงเป็นธุรกิจหลักที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจน และบริษัทฯ ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจเติมเงินมือถือได้เป็นอย่างดี แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีการปรับตัวลดลงตามสภาพเศรษฐกิจและโปรโมชั่นของเครือข่ายมือถือ โดยในปี 2563 คาดว่ายอดเติมเงินรวมจะเติบโตประมาณ 5% มาอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท จาก 4 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งแผนดำเนินงานทั้งหมดคาดว่าจะช่วยหนุนให้รายได้ปี 2563 เติบโต 5% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 3,147 ล้านบาท