ThaiBMA คาด กนง.ลดดอกเบี้ยอีก 0.25% รอบ 25 มี.ค. เพื่อพยุงเศรษฐกิจ

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย คาด กนง.ลดดอกเบี้ยอีก 0.25% รอบ 25 มี.ค.นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในประเทศ หวั่น Inverted yield curve ส่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ชี้ YTD ฟันด์โฟลว์ไหลออกตลาดบอนด์ไทย 3 หมื่นล้านบาท แต่ไม่ได้เข้าออกแบบรุนแรง แต่ถ้าเทียบมาเลเซีย-เกาหลีใต้-อินโดนีเซีย บอนด์ไทยอาจมีความน่าสนใจลดลง

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 25 มี.ค.63 ตลาดเชื่อว่าน่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จากระดับ 1% มาอยู่ที่ระดับ 0.75% จากน้ำหนักเศรษฐกิจในประเทศ (Local Economy) ที่ทำให้ กนง.ตัดสินใจลดดอกเบี้ย ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ตอนนี้บอนด์ยิลด์ 5 ปี ลดลงมาจากต้นปีเกือบ 0.6% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ 0.68% บอนด์ยิลด์ 10 ปี ลดลงมาจากต้นปีเกือบ 0.66% ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ 0.83% ซึ่งเชื่อว่ายังลดลงได้อีก

โดยเส้น Yield Curve ที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นอัตราผลตอบแทนระยะสั้นสูงกว่าผลตอบแทนระยะยาว (Inverted yield curve) ช่วงตั้งแต่ 1 เดือนจนถึง 10 ปี ซึ่งสะท้อนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือเข้าสู่การถดถอย ส่วนอัตราเงินเฟ้อไม่ถึง 1% ย้อนหลัง 5 ปีอยู่แค่ 0.8% เท่านั้น

ส่วนฟันด์โฟลว์ในตลาดบอนด์ไทยไม่ได้เข้าออกแบบรุนแรง ถ้าเทียบกับมาเลเซีย เกาหลีใต้ หรืออินโดนีเซีย ซึ่งจะเห็นว่ามีโฟลว์เข้าไปมากกว่า จึงเป็นที่น่าจับตาเหมือนกันว่าตลาดบอนด์ไทยอาจจะมีความน่าสนใจลดลง เพราะยีลด์ของไทยเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากตลาดหุ้นและตลาดบอนด์ไทยมีเงินไหลออกติดต่อกันมาตลอดตั้งแต่เดือน ก.ค.62

“ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีฟันด์โฟลว์ไหลออกสุทธิตลาดบอนด์ 3 หมื่นล้านบาท โดยเดือน ก.พ.ไหลออกสุทธิ 22,127 ล้านบาท เป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 23,966 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 1,893 ล้านบาท แต่ต่างชาติถือครองอายุยาวขึ้นมาอยู่ที่ 8.96 ปี มูลค่าการถือครองทั้งหมด 9 แสนล้านบาท คิดเป็น 10% ของพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรแบงก์ชาติทั้งหมด”