“กสิกร” จีบ 2 มูลนิธิเงินหนา จ่อรับบริหารพอร์ตหมื่นล้าน

“กสิกรไทย” จีบ 2 มูลนิธิพอร์ต “หมื่นล้าน” เล็งเข้าไปรับบริหารสินทรัพย์เพิ่มผลตอบแทน เผยปัจจุบันมีมูลนิธิกว่า 1 พันแห่ง สินทรัพย์ร่วม 5 แสนล้านบาท ฝากเงินกินดอกเบี้ยได้ผลตอบแทนต่ำแค่ 0.5-1% ต่อปี รับสนใจบริหารพอร์ตสหกรณ์ออมทรัพย์ด้วย

นายตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการพูดคุยกับองค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิ จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นองค์กรเกี่ยวกับกิจการโรงพยาบาล และมีสินทรัพย์เฉลี่ยรายละเกือบ 1 หมื่นล้านบาท โดยธนาคารจะเข้าไปช่วยบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากปกติที่องค์กรประเภทมูลนิธิที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก แต่พบว่าการบริหารจัดการยังไม่มีประสิทธิภาพมากนัก เน้นแต่การฝากเงินที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ เฉลี่ยไม่เกิน 0.5-1% ต่อปีเท่านั้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจองค์กรสาธารณกุศลหรือมูลนิธิในประเทศไทยที่มีการจดทะเบียน มีอยู่กว่า 1,000 องค์กร คาดว่ามีสินทรัพย์รวมกันมูลค่าราว 5 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยมูลนิธิแต่ละแห่งจะมีสินทรัพย์อย่างน้อยราว 500 ล้านบาท

“ถ้าแบงก์เข้าไปช่วยบริหารจัดการให้คำปรึกษาทางการลงทุน ปรับโครงสร้างการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ และใช้เครื่องมือทางการเงินในการบริหาร สมมุติว่าหากบริหารให้ผลตอบแทนมากขึ้นที่ 2% ก็จะมีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นในระบบองค์กรสาธารณกุศลเพิ่มขึ้นถึง 1 หมื่นล้านบาท”

อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นธนาคารจะเริ่มเข้าไปพูดคุยในองค์กรมูลนิธิที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายก่อน เพื่อให้ได้เห็นผลเร็ว หรืออาจจะเป็นองค์กรที่ลูกค้าแนะนำให้เข้าไปช่วยบริหารจัดการ เช่น มูลนิธิที่ครอบครัวจัดตั้ง หรือองค์กรที่มีกฎหมายหรือการกำกับดูแลที่ไม่ซับซ้อน และไม่ยากต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดการมากนัก อาทิ มูลนิธิของมหาวิทยาลัย มูลนิธิโรงพยาบาล และมูลนิธิกลุ่มบุคคล เป็นต้น

ขณะที่กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ ธนาคารก็มีการเข้าไปพูดคุย แต่เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกฎหมาย และการกำกับดูแลค่อนข้างซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งธนาคารกำลังพิจารณาว่าจะสามารถใช้เครื่องมือใดในการเข้าไปช่วยเหลือและบริหารจัดการได้

“องค์กรสาธารณกุศลอันดับต้น ๆ จะเห็นว่ามีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ซึ่งองค์กรเหล่านี้ฝากเงินอย่างเดียว และนำดอกผลมาใช้จ่ายในมูลนิธิ ดังนั้น หากไม่มีการบริหารจัดการลงทุนเลย ผลตอบแทนก็จะเหลือ 0% เราจึงอยากเข้าไปช่วยให้คำแนะนำ เพราะเป็นจุดมุ่งหมายของเราที่ต้องการช่วยเหลือสังคม ช่วยวางแผนการลงทุนตามความเสี่ยง โดยจะร่วมมือกับลอมบาร์ดที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาองค์กรมาช่วย เพราะจะเห็นว่าในต่างประเทศ แม้จะเป็นองค์กรที่ไม่เน้นแสวงหากำไร แต่เป็นการไม่จ่ายปันผล แต่จะนำดอกผลที่ได้มาใช้” นายตรีพลกล่าว