ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (2 เม.ย.) ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวระหว่าง 32.95-33.20 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินพลิกกลับไปปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ดัชนีตลาดหุ้น S&P500 ปรับตัวลง 4.4% พร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับลดลง 9.3bps มาที่ 0.58% ใกล้เคียงระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในวันที่ 9 มีนาคม 2563 ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน (3.5%) และทองคำ (0.9%)
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ในขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ก็อยู่ในภาวะเปราะบาง ล่าสุดการจ้างงานภาคเอกชน (ADP Employment) ปรับตัวลดลง 2.7 หมื่นตำแหน่ง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) ก็ปรับตัวลงสู่ภาวะทดถอย ด้วยแรงกดดันจากการสั่งซื้อสินค้า และราคาสินค้าที่ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (Initial Jobless Claims) ก็ยังเพิ่มขึ้นในระดับสูงที่ 3.7 ล้านตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนผู้รับสวัสดิการต่อเนื่องอาจพุ่งขึ้นสูงถึงกว่า 8 ล้านตำแหน่งในสัปดาห์หน้า คิดเป็นการว่างานชั่วคราวถึง 15% ซึ่งมากกว่าช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551
ส่วนในฝั่งของตลาดเงินพบว่าดัชนีดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 98-100จุด เพราะแม้ภาพความเสี่ยงในตลาดทุนที่สูงขึ้นจะหนุนให้เงินเยน (JPY) แข็งค่า แต่การระบาดของไวรัสในฝั่งยุโรป กลับมาเป็นปัจจัยกดดันให้บอนด์ยีลด์อิตาลีปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับยีลด์เยอรมัน กดดันให้เงินยูโร (EUR) ที่คิดเป็นกว่า 56% ของดัชนีอ่อนค่าลง
ฝั่งเงินบาท แม้จะไม่ใช่สมรภูมิหลักของตลาดการเงินในรอบนี้ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วทั้งโลกเช่นเดียวกัน จากต้นปีมาจนถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่าไปแล้วถึง 9.5% ขณะที่ความผันผวนก็ขยับขึ้นมาที่ระดับ 7% จากช่วงต้นปีที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 4%
“มองว่าจุดต่อไปที่ต้องจับตานอกจากทิศทางของตลาดทุน ก็คือแนวโน้มการระบาดของไวรัสในฝั่งตะวันตกที่ต้องเทียบรายวันว่าระหว่างอเมริกาและยุโรป ฝั่งไหนจะควบคุมการระบาดได้ก่อนกัน ขณะที่ในระยะยาว จุดที่ต้องติดตามเพิ่มเติมคือทิศทางของราคาน้ำมัน ถ้ายังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องแม้ดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ก็อาจจะไม่เห็นการแข็งค่าของสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) กลับมาในอนาคต” ดร.จิติพลกล่าว