กสิกรไทยจ่อปรับแผนธุรกิจใหม่มิ.ย.นี้ คาดสินเชื่อโตต่ำกรอบ 4-6%

ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย via Getty Images

กสิกรไทย เตรียมทบทวนแผนธุรกิจใหม่ คาดเคาะตัวเลขใหม่เดือนมิ.ย.นี้ ประเมินสินเชื่อโตไม่ถึงกรอบ 4-6% เหตุโควิด-19 กระทบจีดีพีติดลบ ขอเน้นช่วยลูกค้าผ่านวิกฤต-มองสินเชื่อปล่อยใหม่น้อย ย้ำแบงก์สถานะแข็งแกร่ง-สภาพคล่องสูงพร้อมรับมือ ลั่นแผนขยายเครือข่ายธุรกิจต่างประเทศเดินหน้าต่อ เน้นลงทุนน้อย-ใช้เทคโนโลยีบุกตลาด เผยเมียนมามีข่าวดีเร็วนี้

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการเติบโตของธุรกิจใหม่ในปีนี้ จากเดิมมองอัตราการเติบโตสินเชื่อภาพรวมอยู่ที่ 4-6% ภายใต้เศรษฐกิจที่ยังมองว่าขยายตัวอยู่ และสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่รุนแรง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 0.5% แต่จะเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองการเติบโตเป็นติดลบ 5.3% ดังนั้น ธนาคารจะนำตัวเลขประมาณการต่างๆ นำมาพิจารณาทบทวนการเติบโตใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้

เบื้องต้น ธนาคารคาดว่าภาพรวมการเติบโตสินเชื่อคงปรับลดลงจากกรอบเป้าหมายเดิม 4-6% เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ภาพปีนี้จะเป็นเรื่องการดูแลและช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบผ่านมาตรการช่วยเหลือ จึงไม่ได้เป็นปีที่เน้นการปล่อยสินเชื่อใหม่หรือเติบโตสินเชื่อเหมือนช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีลูกค้าบางกลุ่มที่ยังคงขยายตัวได้ หรือยังมีกระแสเงินสด (Cash Flows) ซึ่งกลุ่มนี้ธนาคารก็ยังคงให้ความสำคัญและสนับสนุนเป็นปกติ

อย่างไรก็ดี ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ธนาคารยังคงยืนยันว่ามีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งสามารถรองรับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดยปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (L/D) อยู่ประมาณ 96% ซึ่งถือว่าอยู่ในค่าเฉลี่ยที่ธนาคารอยู่ที่ประมาณ 95-97% ขณะที่เกณฑ์การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง หรือ LCR (Liquidity Coverage Ratio disclosure standards) ยังอยู่ในระดับสูงที่ 198% และเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) อยู่กว่า 16% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับไม่สูงมาก แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา

“เราจะมีการ Revise เป้าหมายธุรกิจใหม่อีกครั้ง โดยเรากำลังรวบรวมเลขต่างๆ และวิเคราะห์อยู่ เบื้องต้นน่าจะปรับเป้าหมายลดลง และแผนน่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ และจะมีการแจ้งไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป”

พิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แผนการขยายเครือข่ายธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านเป็นแผนกลยุทธ์ใหญ่ของธนาคาร โดยจะมีการประกาศงบการลงทุนจริงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งเบื้องต้น การขยายธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน หรือ AEC+3 จะไม่ได้ไปในรูปแบบที่เหมือนกับธนาคารแห่งอื่น โดยไม่จำเป็นไปในรูปแบบเดิมที่ไปตั้งสาขาธนาคาร แต่ธนาคารจะใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้าไปขยายการบริการให้ดีขึ้น ในต้นทุนที่ลดลง ซึ่งจะใช้การลงทุนน้อยๆ แต่สามารถเข้าไปทำตลาดได้เร็ว และขยายตลาดได้เร็วผ่านเครื่องมือเทคโนโลยีที่มีอยู่

สำหรับความคืบหน้าในการขยายตลาดเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านนั้น จะต้องได้รับการอนุมัติจากทางการของประเทศนั้นๆ จะพิจารณาใบอนุญาต (License) และการเลือกพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันธนาคารได้ขยายเข้าไปผ่านจัดตั้งสาขาแล้วในประเทศกัมพูชา สปป.ลาว และลงทุนผ่านการร่วมทุนที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยตอนนี้ธนาคารพยายามจะเข้าไปทำตลาดในเมียนมา ซึ่งคาดว่าน่าจะมีข่าวดีภายในเร็วๆ นี้


“เมียนมาเราพยายามจะเข้าไป โดยการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน จะเน้นการมีพันธมิตรทางธุรกิจ ไม่ได้เป็นการซื้อธุรกิจ เน้นการลงทุนน้อยๆ และร่วมทุนกับผู้ประกอบการประเทศนั้น เพื่อให้ธนาคารได้รู้จักตลาดและมีความรู้มากขึ้น”