ธ.ก.ส. ร่วมมือกับ ปตท. จัดพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าและผลผลิตให้เกษตรกร ระบายผลผลิตตามฤดูกาล สร้างโอกาสให้ผู้ผลิตได้จำหน่ายสินค้าสู่ผู้บริโภคโดยตรง อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
วันนี้ (25 ก.ย) ณ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 555 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. มีพิธีลงนามความร่วมมือ “ปตท. – ธ.ก.ส. รวมพลัง ร่วมใจช่วยเกษตรกร” ร่วมกัน ระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์
รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และนาย อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดในการดำเนินงานร่วมกันเพื่อช่วยเกษตรกรนับตั้งแต่ พ.ศ. 2555 ที่ ธ.ก.ส. ดำเนินงานร่วมกับ ปตท. โดยให้เกษตรกรลูกค้าเติมน้ำมันผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกรที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ลดการใช้เงินสดสร้างความสะดวกและปลอดภัยให้เกษตรกรลูกค้าเป็นอย่างดี ความร่วมมือในครั้งนี้จะเติมเต็ม Value chain ของผลิตผลทางการเกษตรครบวงจร คือ การผลิตซึ่งเป็นต้นน้ำ การแปรรูปซึ่งเป็นกลางน้ำ จนถึงช่องทางการจำหน่ายหรือการตลาดซึ่งเป็นปลายน้ำ เพื่อพัฒนาชนบทด้วยระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า “ธ.ก.ส. เชื่อมั่นในศักยภาพของ ปตท. เนื่องจากสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.
ซึ่งตั้งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ หากเปิดให้เกษตรกรมีช่องทางในการจำหน่ายผลิตผลของตนเองจะสามารถระบายผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาล ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจากเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆจำหน่ายโดยตรงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ ธ.ก.ส. จะพัฒนาช่องทางในการชำระค่าสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขาย ผ่านแอพพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A – Mobile และระบบ QR Code ซึ่งผู้ขายมี QR Code ของตนเอง ผู้ซื้อเพียงแต่มีเงินฝากในบัญชี เมื่อจ่ายชำระค่าสินค้าเพียงใช้โทรศัพท์มือถือ (Smart Phone ) สแกน QR Code ของผู้ขายเท่านั้น ไม่ต้องพกพาเงินสดตอบรับสังคมยุคใหม่ (Cashless Society) โดยในวันนี้ ธ.ก.ส. ได้นำตัวอย่างสินค้า SME เกษตร ได้แก่ ผัก ผลไม้ Organic กระยาสารท ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กล้วยอินทรีย์ มะพร้าวน้ำหอม ซึ่งมีการนำ QR Code ที่ ธ.ก.ส. สนับสนุนมาใช้เพิ่มช่องทางในการจ่ายชำระค่าสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยมาจัดแสดงด้วย ความร่วมมือนี้จะส่งผลให้เกษตรกรและชุมชนในภาคชนบทมีช่องทางการตลาด สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากและพัฒนาวงการเกษตรไทย”