ตลาดเงินปรับตัวในกรอบแคบ รอดูผลกระทบและมาตรการรับมือ COVID-19 จากภาครัฐ

ค่าเงินบาท เงินบาท ตลาดหุ้น
แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดเงินตราประจำวันพุธที่ 8 เมษายน 2563 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (8/4) ที่ระดับ 32.80/82 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (7/4) ที่ระดับ 32.77/79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าเมื่อคืน (7/4) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง แต่ก็ปรับตัวแข็งค่ากลับมาในช่วงเช้านี้ (8/4) หลังจากยอดเสียชีวิตจาก COVID-19 ในนิวยอร์ก สหรัฐ สำหรับเมื่อวาน (7/4) พุ่งสูงถึง 731 ราย ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล และขายคืนสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อกลับมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินเยนอีกครั้ง

นอกจากนี้ ในวันนี้ (8/4) นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกรระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า ทางรัฐบาลสหรัฐอยู่ระหว่างหารือ เพื่อเสนอเพิ่มวงเงินช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยขอเพิ่มวงเงินอีก 250 พันล้าน จากเดิมที่ 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยการจ้างงานในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว ในส่วนของตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เมื่อคืนนี้ (7/4) มีตัวเลขตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่จาก JOLT เดือนกุมภาพันธ์ ออกมาอยู่ที่ 6.88 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.6 ล้านตำแหน่ง

สำหรับข้อมูลปัจจัยภายในประเทศ ค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยเมื่อวานนี้ (7/4) ในตลาดทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 507.18 ล้านบาท ส่วนตลาดพันธบัตรนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,677 ล้านบาท นอกจากนี้นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.และกระทรวงการคลังได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อออกมาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา เช่น การสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (Soft Loan) ให้แก่ธุรกิจ SMEs วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษร้อยละ 2 ต่อปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.75-32.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.79/81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (8/4) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.0876/79 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (7/4) ที่ระดับ 1.0887/90 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ COVID-19 ในสเปนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในยุโรปกลับมาเป็นที่น่ากังวลอีกครั้ง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0828-1.0902 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.10866/69 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (8/4) เปิดตลาดที่ระดับ 108.52/55 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (7/4) ที่ระดับ 109.08/11 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมามีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หลังจากยอดผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ในสหรัฐ และสเปน กลับมามีตัวเลขที่สูงขึ้น ทำให้มีแรงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยกลับมา หลังจากที่ตลาดคลายความกังวลและเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก่อนหน้านี้ โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.48-109.00 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.81/84 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานคลังสินค้าน้ำมันดิบของสหรัฐ (8/4), รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย เดือนมีนาคม (8/4), รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (9/4), ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของสหราชอาณาจักร (9/4), ดุลการค้าสหราชอาณาจักร เดือนกุมภาพันธ์ (9/4), ดุลการค้าเยอรมัน เดือนกุมภาพันธ์ (9/4), รายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐอเมริกา (9/4), ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐ เดือนมีนาคม (9/4), ดัชนีราคาผู้บริโภคจีน เดือนมีนาคม (10/4), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย เดือนมีนาคม (10/4), ดัชนีราคาผู้ผลิตญี่ปุ่น เดือนมีนาคม (10/4), ดัชนราคาผู้บริโภคพื้นฐานสหรัฐ (10/4)


สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.25/+0.55 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +0.6/+2.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ