ผู้ว่าการ ธปท.ชี้เสี่ยง “เงินออนไลน์” คล้ายแชร์ลูกโซ่ พบพฤติกรรม “ชิงโชค-เงินรางวัล” และบางธุรกรรม ย้ำเป็นเงินที่ไม่รับรองชำระหนี้ได้ตาม กม.
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธปท.เริ่มเห็นความเสี่ยงจากการเข้าไปลงทุนผ่านสกุลเงินออนไลน์ หรือที่เรียกว่า cryptocurrency เช่น บิตคอยน์ เนื่องจากเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนสูง อีกทั้งมีการจูงใจลักษณะการชิงโชค ให้เงินรางวัล หรือให้ผลตอบแทนที่สูง และพบว่าบางธุรกรรมมีการจูงใจให้ลงทุน ซึ่งมีลักษณะแชร์ลูกโซ่
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ดังนั้น ธปท.จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาถึงความเสี่ยงในการลงทุนดังกล่าว เพราะการเข้าไปลงทุนผ่านสกุลเงินนี้ ธนาคารกลางหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ไม่มีการรับรองทางกฎหมายว่าสามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายได้ โดยที่ผ่านมา ธปท.ก็ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีหน่วยงานที่ดูด้านความเสี่ยงได้มีการออกโรงเตือนเรื่องการเข้าไปลงทุนผ่านสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่อย่างใกล้ชิด
“เราพบว่าช่วงที่ผ่านมาสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่ผันผวนสูง ขึ้นลงเป็น 100% และมีการจูงใจเพื่อให้ประชาชนเข้าไปลงทุนผ่านการให้รางวัลต่าง ๆ ดังนั้นจึงอยากเตือนว่าสกุลเงินนี้ไม่มีโครงสร้างกำกับดูแล เพราะไม่ได้มีการรองรับทางกฎหมายว่าสามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้นประชาชนที่เข้าไปลงทุนในสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่ก็ต้องดูความเสี่ยง และศึกษาความเสี่ยงให้ดีก่อนเข้าไปลงทุน ซึ่งแตกต่างกับเงินอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันที่สามารถใช้จ่ายได้ถูกต้องตามกฎหมาย” วิรไทกล่าว
