บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 13 เม.ย.2563 ว่า ดัชนีมีโอกาสดีดตัวช่วงสั้นแต่ยังไปได้ไม่ไกล คาด SET INDEX เช้านี้ยังขึ้นได้ต่อด้วยแรงหนุนจากผลการประชุมด่วนของ OPEC เมื่อคืนนี้ในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน แต่จะมี Upside ที่จำกัดในกรอบเคลื่อนไหวระหว่าง 1,200-1,250 จุด โดยหากดัชนีเปิดยืนเหนือ 1,220 จุดได้ จะมีลุ้นขึ้นไปทดสอบ 1,250 จุด ได้ก่อนเผชิญแรงขายทำกำไรแล้วย่อตัวเพื่อสร้างฐานใหม่
โดยผลที่ประชุม OPEC และพันธมิตรเมื่อคืนที่ผ่านมามีมติเป็นทางการลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มวันที่ 1 พ.ค.63 จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63 ขณะที่เม็กซิโกยอมลดเพียง 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน น้อยกว่าที่ OPEC ขอไว้ที่ 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้านสหรัฐฯ-แคนาดา-บราซิล ลดเพิ่มอีก 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้เช้านี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวผันผวนระหว่าง 3-8% ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานได้บ้าง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ส่วนสถานการณ์ COVID-19 วานนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยลดลงอย่างมากในรอบเดือน สัญญาณโดยรวมดีขึ้นโดยเฉพาะอัตราการรักษาหายของผู้ป่วยในไทยที่สูงถึง 47.7% และอัตราการเสียชีวิตเพียง 1.48% ลดความวิตกกังวลภายในได้ระดับหนึ่ง แต่ในต่างประเทศยังไม่ค่อยดีนัก ล่าสุดสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกแซงหน้าอิตาลี ขณะที่ยุโรปแม้อัตราการติดเชื้อเพิ่มจะเริ่มชะลอตัวลง แต่ทางรัฐบาลในหลายประเทศโดยเฉพาะอิตาลีและอังกฤษยังคงขยายเวลา Lockdown ออกไปจนถึงต้นเดือน พ.ค. 63
โดยรวมขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 กว่า 1.85 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 1.14 แสนราย ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือ 1.การประกาศงบไตรมาสที่ 1/63 ของกลุ่มธนาคาร 2.สถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ในสหรัฐฯ และยุโรป ที่คาดว่าจะผ่านจุดสูงสุดภายในสัปดาห์นี้
