ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 23 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวันแรก ที่มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง ,มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบสิทธิ์ การรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ผ่านเว็บ “เราไม่ทิ้งกัน”
ปรากฏว่า ผู้ที่ลงทะเบียนรายหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพ “เป็นเสมียนทนายรายวัน” มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยทนาย ไม่มีสัญญาจ้าง ได้เงินค่าจ้างรายวันด้วยการเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ โดยปกติจะต้องเข้าออฟฟิศ “ทุกวัน”
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ศาลยุติธรรมได้ออก “ประกาศเลื่อนคดี” ปริมาณงานจึงลดลง ประกอบกับออฟฟิศมีมาตรการลดความเสี่ยง ในการติดเชื้อด้วยการให้ผู้ที่ไม่มีรถส่วนตัวนั้นรอรับมอบหมายงานอยู่ที่บ้าน (work from home) จึงทำให้รายได้ลดลงจากปกติกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นกลุ่มที่แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากได้ลงทะเบียนผ่านเว็บ “เราไม่ทิ้งกัน” และอยู่ในกลุ่มที่ต้อง “ยื่นอุทธรณ์” จำนวน 10.6 ล้านคน
ในวันนี้ (23 เมษายน 2563) ได้รับโทรศัพท์ จากเจ้าหน้าที่ว่า “ขอให้เตรียมข้อมูล” เพื่อการอุทธรณ์ คือบัตรประชาชนและข้อมูลยืนยันการทำงาน จะเป็นสลิปเงินเดือนก็ได้ ผู้อุทธรณ์รายนี้ จึงได้เตรียมข้อมูลการจ่ายค่าจ้างและคำสั่งงาน ให้เจ้าหน้าที่
เมื่อเจ้าหน้าที่ มาถึงที่พัก แจ้งว่า ขออนุญาตถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนโดยระบุว่าจะนำไปใช้ในโครงการเราไม่ทิ้งกัน พร้อมถ่ายภาพของผู้อุทธรณ์ ณ ที่พัก 1 ภาพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอข้อมูลยืนยันการทำงาน
ผู้อุทธรณ์ จึงได้ให้ข้อมูลที่เป็นแชทไลน์ที่มีการสั่งงานและการจ่ายค่าจ้าง แต่เจ้าหน้าที่ไม่มั่นใจ และขอบัตรทนาย พร้อมภาพสำนักงาน ผู้อุทธรณ์ก็ให้ และต้องการให้ภาพที่เป็นตารางการทำงานประกอบด้วย แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเก็บภาพได้เพียง 2 ภาพเท่านั้น และเมื่อขอให้เปลี่ยนภาพ
ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตอบว่า “ส่งรูปไปแล้ว แก้ไขไม่ได้”
ทั้งนี้ ผู้ที่มาพบผู้อุทธรณ์ เป็นเจ้าหน้าที่ 3 คน ไม่ได้สวมยูนิฟอร์มที่ระบุว่าสังกัดกหน่วยงานใดๆ เพียงแต่แขวนบัตรระบุว่า “มีข้อสงสัยติดต่อ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 02273-9020 ต่อ 3421-3430 ในวันเวลาราชการ” พร้อมโลโก “เราไม่ทิ้งกัน”
เมื่อผู้อุทธรณ์ ถามว่า ทำไมเพื่อนร่วมงานของผู้อุทธรณ์ จึงไม่ถูกตัดสิทธิ์เหมือนผู้อุทธรณ์ (ระบบแจ้งผู้อุทธรณ์ว่าไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นผู้ประกอบการ ให้เข้าถึงการช่วยเหลือผ่านมาตรการอื่น เช่น รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารต่างๆ) เพื่อนร่วมงานรายอื่นระบบเพียงให้ใส่ข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งที่ระบุการทำงานเหมือนกัน
เจ้าหน้าที่ตอบว่า “ไม่ทราบ และไม่สามารถให้คำตอบได้”
เมื่อผู้อุทธรณ์ ถามเจ้าหน้าที่ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่อย่างไร
เจ้าหน้าที่ตอบว่า “ไม่ใช่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เป็น outsource วันนี้ ทำงานวันแรก และมาพบผู้ให้ข้อมูลเป็นรายแรก ได้รับมอบหมายให้มาขอแค่ถ่ายภาพ 2 รูป จากผู้ยื่นอุทธรณ์ ไม่ได้มีหน้าที่เก็บข้อมูลอย่างอื่น ไม่สามารถแก้ข้อมูลให้ได้เพราะรายชื่อที่ถูกส่งมาพอใส่รูป 2 รูปไปให้แล้วระบบก็จะตัดชื่อของคนนั้นออกจากลิสต์รายชื่อที่ต้องไปตามบ้าน หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อที่เบอร์สำนักงานเศรษฐกิจการคลังตามรูปในบัตร”
แต่เมื่อผู้อุทธรณ์ โทร.ไปตามเบอร์ดังกล่าว ไม่สามารถติดต่อได้