เมื่อเวลา 14.22 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย ภายหลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าได้รายงานการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องการเยียวยา ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ถึงแม้ว่าจะครอบคลุมคนส่วนใหญ่ไปมากแล้ว แต่ยังมีส่วนที่ยังไม่ครบ เช่น คนตัวเล็กที่ยังเข้าไม่ถึงระบบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้มาตรการต่าง ๆ ครอบคลุมคนที่ได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ
“ผู้ประกอบการขนาดเล็กกว่าเอสเอ็มอีจะดูแลกันอย่างไร ซึ่งท่านนายกฯ ได้มอบให้กระทรวงการคลังไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะมีวิธีใหม่หรือไม่ นอกจากสินเชื่อ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นายอุตตมกล่าวว่า มาตรการเยียวยาดำเนินการไปได้ด้วยดี 12 ล้านคนได้รับการแจกเงิน 5,000 บาทอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทบทวนสิทธิ์ให้ และวันนี้กระทรวงการคลังได้จัดระบบเพื่อรับเรื่อง
“ไม่ได้อยู่ที่กระทรวงการคลังอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ซึ่งท่านนายกฯดำริว่า ให้เชิญตัวแทนจากกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมารับเรื่อง”
นายอุตตมกล่าวว่า สำหรับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 400,000 ล้านบาท ภายใต้การใช้เงินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนหารือร่วมกัน เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง ที่มีเลขา สศช.เป็นประธาน เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป จะทำให้เร็วที่สุด ซึ่งตั้งใจว่าจะประชุมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการเยียวยา 5,000 บาท จะขยายไปยังกลุ่มใดเพิ่มเติม นายอุตตมกล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เช่น ซาเล้ง ซึ่งกระทรวงการคลังรับลูกมาแล้ว และจะประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง (พม.)
“ส่วนเงินสำหรับมาตรการเยียวยา 555,000 ล้านบาท เพียงพอ ซึ่งช่วยเหลือเงิน 5,000 บาท ประมาณไว้ 16 ล้านคน ได้ครบ 3 เดือน จ่ายเงินไปแล้ว 12 ล้านคน โดยจะรวบรวมข้อมูลที่ตกหล่นให้เร็วที่สุด”
ด้านนายสนธิรัตน์กล่าวว่า ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเรื่องราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ โดยจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการน้ำมันปาล์มแห่งชาติ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้น รวมถึงแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท
ขณะที่ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน (บัตรสีชมพู) ประมาณ 1 ล้านคน ขอให้มาลงทะเบียนเกษตรกร ส่วนเกษตรกรที่ลงทะเบียนใหม่ หากไม่มีบัญชี ธ.ก.ส.สามารถใช้บัญชีธนาคารที่มีอยู่แล้วเดิมได้ แต่ต้องแจ้งข้อมูลบนเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com
“กระทรวงเกษตรฯจะตรวจสอบไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และจะส่งชื่อไปยังกระทรวงการคลังเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับการจ่ายเงินรายละ 5,000 บาท คาดว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรหลังจากวันที่ 15 พ.ค.63 ต่อไป”
น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือในที่ประชุม ครม.ถึงกลุ่มเปราะบางได้รับการเยียวยาเพื่อให้ครอบคลุมได้หรือไม่ เช่น ซาเล้ง ซึ่งกระทรวงการคลังรับไปพิจารณา หรือทำนาเกลือ เลี้ยงปลา โดยนายกรัฐมนตรีให้ชี้แจงให้ชัดว่า กลุ่มเปราะบาง คือ กลุ่มใดบ้าง เพื่อให้เกิดการดูแลให้ทั่วถึง
ส่วนข้อกล่าวหาว่า กระทรวงเกษตรฯ ช่วยเหลือแต่เกษตรกรปลูกยางพาราเพราะเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์นั้น “เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเลือกดูแลฐานกลุ่มโน้น กลุ่มนี้ เพราะถ้ารัฐบาลนี้ดูแลพี่น้องประชาชนไม่ได้ทั่วถึง ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลและไม่เป็นผลดีต่อพรรคการเมืองไหน ๆ เช่นกัน”