ตลาดทุนชงอัดโมเดล “ช้อปช่วยชาติ” ปลุกเศรษฐกิจ หลังคลายล็อกดาวน์

แฟ้มภาพ

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้(12 พ.ค.63) ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยมีนัดหารือกับบริษัทจดทะเบียน(บจ.) และวันพฤหัสบดี(14 พ.ค.63) จะมีการประชุมคณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อจะทำข้อสรุปมาตรการเพื่อเสนอแก่รัฐบาลตามความเห็นของเฟทโก้ว่าควรจะกระตุ้นเศรษฐกิจแนวทางแบบไหน ซึ่งเบื้องต้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คงจะต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคเอกชน โดยจะต้องกระตุ้นเอาคนที่มีกำลังซื้อสูงๆ ซึ่งไม่ได้ถูกผลกระทบจากโควิด-19 หรือได้รับผลกระทบน้อย ต้องกระตุ้นให้ออกมาจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้ช่วยฟื้นเศรษฐกิจโดยเร็ว ดังนั้นรัฐจะต้องสร้างแรงจูงใจเหมือนที่เคยทำมาในอดีต แต่ต้องทำขนาดที่สูงขึ้น เช่น ช้อปช่วยชาติ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้มากกว่าเดิม

“อย่าไปประหยัดเลย ถ้ามีเยอะให้เขาใช้ลดหย่อนภาษีได้เยอะไปเลย เดิมเคยให้ลดหย่อน 15,000 บาท จำกัดประเภทสินค้าที่ซื้อ ผมว่าคราวนี้โดนผลกระทบทั้งประเทศ อาจจะให้ลดหย่อนถึง 50,000 บาท หรือถ้ากล้ากว่านั้นก็ให้เยอะกว่านั้นก็ได้ เชื่อว่าเงินที่เก็บๆ อยู่จะออกมาหมุนในระบบ ซึ่งถือเป็นการเอาคนที่มีกำลังมาช่วยคนที่ไม่มีกำลัง หรือภาคธุรกิจที่กำลังมีปัญหา ซึ่งเป็นแนวทางที่เรากำลังคุยกันอยู่” นายไพบูลย์กล่าว
นอกจากนี้ภาคท่องเที่ยวทำอย่างไรให้ทุกคนเอาเงินมาใช้ท่องเที่ยวในประเทศ ฉะนั้นงบประมาณก็ใช้ระดับที่เต็มที่ไปเลยในแง่การให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี เพื่อให้ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพราะว่าจะพึ่งพาต่างชาติคงยากมากๆ ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังคุยกันอยู่

“ต้องดึงคนที่มีเงินมาช่วยด้วยการให้แรงจูงใจทางภาษี ซึ่งคนเหล่านี้เขาพร้อมอยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่มีแรงจูงใจที่จะต้องออกมาใช้ในตอนนี้ แต่เราจำเป็นต้องทำให้มันเกิดขึ้นเลยภายใน 6 เดือนข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นมาตรการซื้อสังหาริมทรัพย์ ลงทุนของเอกชนให้ค่าลดหย่อนภาษี ผมว่ามีความจำเป็นแล้วที่จะต้องทำ ในมุมตลาดทุนมองว่าพวกอินฟา ตรัสเจอร์ฟันด์ ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ พร้อมที่จะขยาย ซึ่งเม็ดเงินออมเยอะแยะพร้อมที่จะลงทุนในสิ่งเหล่านี้ ถ้ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานก็ใช้วิธีการระดมทุนจากตลาดทุน รัฐบาลจะได้ไม่ต้องไปกู้เงิน” นายไพบูลย์ กล่าว