“วิษณุ” ขีดเส้น3เดือน เฟ้นผู้บริหารแผนบินไทย เผยคลังขายหุ้น 3% พ้นสถานะรัฐวิสาหกิจ

Photo by MIKE CLARKE/AFP

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2563 เวลา 17.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เข้าพบเพื่อหารือถึงแผนการฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เข้าสู่กระบวนการศาล ว่า นายอุตตม และนายศักดิ์สยาม ได้มาขอความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตนได้บอกไปแล้ว และให้เขาไปคิดกันเองต่อ โดยแนวทางเป็นไปตามกฎหมาย แต่เวลาปฏิบัติจริงขึ้นอยู่กับบอร์ดการบินไทยเท่านั้น ณ วันนี้ นาทีนี้การบินไทยถือว่ายังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ และรัฐยังควบคุมอยู่ แต่ถ้าหากกระทรวงการคลังขายหุ้น 3% ให้กับผู้อื่นไป สัดส่วนลดลงจาก 51% จะเหลือ 48% การบินไทยจะพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคมจะไปยุ่งเกี่ยวกับการบินไทยไม่ได้แล้ว เพราะเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่ายังมีอีก 52% ถ้าเขารวมกันติดเขาก็ใหญ่กว่า มันเป็นเหมือนบริษัทมหาชนธรรมดา

เมื่อถามว่า หากหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ที่ 48% ไม่จำเป็นที่รัฐจะเข้าไปอุ้มอะไรแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอุ้ม ไม่มีอะไร ไม่เคยมีใครพูดถึงการอุ้ม ขืนไปอุ้มก็เป็นรัฐวิสาหกิจอีก จากนี้กระทรวงการคลังต้องขายหุ้นในการบินไทย เพื่อลดสัดส่วนหุ้นลง ให้การบินไทยหลุดจากรัฐวิสาหกิจ เป็นบริษัทมหาชน เหมือนกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เป็นต้น จากนั้นบอร์ดการบินไทยชุดใหม่ที่เกิดจากสัดส่วนการขายหุ้นของกระทรวงการคลังจะไปจัดการกันเอง เพื่อตัดสินใจเข้าสู่แผนฟื้นฟู และเสนอแผนฟื้นฟู กระทรวงการคลังจะไปชักใยอะไรไม่ได้แล้ว ส่วนการเสนอตัวบุคคลที่จะมาเป็นผู้จัดทำแผน กระทรวงการคลังสามารถเสนอชื่อได้ เนื่องจากยังถือหุ้นใหญ่อยู่

เมื่อถามต่อว่าโครงสร้างของผู้จัดทำแผนจะต้องมีจำนวนเท่าใด 15 คนตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ว่าตัวเลข 15 คนนี้มาจากไหน อาจจะ 20 คน 30 คนหรือ 40 คนก็ได้ ไม่แปลก ซึ่งบอร์ดใหม่การบินไทยจะเป็นผู้เสนอ

เมื่อถามอีกว่า การขายหุ้นของกระทรวงการคลังต้องขอมติ ครม.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ต้อง กระทรวงการคลังสามารถขายได้เลย ครม.อนุญาตแล้ว เนื่องจากให้พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเด็ดขาด ซึ่งหมายความว่าไม่เป็นเยื่อใยอะไรกันอีกต่อไป ส่วนการเสนอรายชื่อผู้จัดทำแผนนั้น โดยนิตินัยไม่ต้องเสนอผ่านนายกฯ แต่โดยพฤตินัยกระทรวงการคลังก็ยังถือหุ้นใหญ่ในการบินไทย ต่อจากนี้ไป ครม.หรือนายกฯจะมีอะไรก็เป็นการสั่งกระทรวงการคลัง ไม่ใช่สั่งการบินไทยอีกต่อไป

เมื่อถามย้ำว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนานหรือไม่กว่าจะไปถึงขั้นตอนการได้บุคคลที่จะเข้ามาบริหารแผนฟื้นฟูการบินไทยนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ใช้เวลานานไม่ได้อยู่แล้ว ประมาณ 3 เดือนจะต้องได้ผู้บริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งอาจจะเร็วกว่า 3 เดือนก็ได้ เมื่อเข้าสู่คดีล้มละลายก็เป็นเรื่องระหว่างศาลกับเจ้าหนี้ บางครั้งอาจเป็นลูกหนี้ด้วย เบื้องต้นลูกหนี้ต้องไปจัดทำแผนและนำมาให้เจ้าหนี้ดูว่ายอมรับหรือไม่ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมรับก็ล้ม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับก็ส่งให้ศาล ถ้าศาลยอมรับก็เดินหน้า แต่ถ้าศาลไม่ยอมรับก็ล้ม อย่างไรก็ตาม นายกฯในฐานะถืออำนาจฝ่ายผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กระทรวงการคลัง นายกฯจะเอารายชื่อผู้จัดทำแผนตามที่บอร์ดการบินไทยใหม่เสนอหรือไม่ เป็นเรื่องที่บอกกระทรวงการคลังไปก็ต้องทำตาม และขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ด้วย