ธปท.เผยการใช้ e-payment เพิ่มสูงขึ้นช่วงโควิด ชี้ ผู้ประกอบการรายใหม่ยื่นขอใบอนุญาตต่อเนื่อง หลังรออนุมัติอีก 10 ราย จากอนุมัติไปแล้ว 17 ราย 32 ใบอนุญาต จากในช่วง 2 ปีมีผู้ประกอบการกว่า 118 ราย ยันพร้อมอนุมัติหากคุณสมบัติครบ ระบุโควิด-19 ดันยอดพร้อมเพย์แตะ 16 ล้านรายการ ยอดลงทะเบียน 52 ล้านเลขหมาย
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การใช้งานบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมและมีปริมาณการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการโอนเงินและชำระเงิน ทำให้มีผู้สนใจประกอบธุรกิจด้านนี้เพิ่มขึ้นมาก
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจการชำระเงินตาม พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2561 จำนวน 118 ราย โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธปท. มีการอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชำระเงินรายใหม่ไปแล้วจำนวน 17 ราย รวม 32 ใบอนุญาต และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 ราย
ทั้งนี้ ธปท. ได้กำหนดกระบวนการพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตที่ชัดเจน โดยใช้เวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสารครบถ้วนถูกต้องแล้ว ซึ่งรายละเอียดการขออนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจได้เผยแพร่ผ่านคู่มือประชาชนบนเว็บไซต์ ธปท.https://www.bot.or.th/Thai/PaymentSystems/PSA_Oversight/Application_Manual/Pages/default.aspx โดยการพิจารณาได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง รูปแบบการประกอบธุรกิจ ความมั่นคงเข้มแข็งของระบบงาน และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ รวมทั้งการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พร้อมเพย์ ปัจจุบันมียอดลงทะเบียนแล้ว 52 ล้านหมายเลข ธุรกรรมเฉลี่ย 11 ล้านรายการต่อเดือน และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 มีจำนวนธุรกรรมสูงสุดถึง 16 ล้านรายการในเดือนเมษายน 2563 และมีร้านค้าที่รับชำระด้วย QR Code กว่า 6 ล้านจุด