ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ระดับ 31.81 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.83 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 31.70-31.90 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนช่วงสัปดาห์นี้มีประเด็นที่ต้องติดตามหลากหลายทั้งฝั่งเศรษฐกิจและการเมือง คาดว่ากรอบเงินบาทสัปดาห์นี้จะอยู่ระหว่าง 31.50-32.00 บาทต่อดอลลาร์
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
ดร.จิติพล กล่าวว่า ความน่าสนใจของสัปดาห์นี้ เริ่มที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Non-Manufacturing PMI) ที่จะมีการรายงานในวันพุธ (3 มิ.ย.) คาดว่าจะขยับขึ้นมาที่ระดับ 44 จุด จากที่หดตัวลงถึง 41.8 จุดในเดือนก่อน ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าหลายรัฐในสหรัฐกลับมาเปิดทำการธุรกิจได้บ้างแล้ว
ส่วนในฝั่งยุโรปมีกำหนดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ในวันพฤหัส (4 มิ.ย.) แม้ในรอบนี้คาดว่าจะ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ -0.50% แต่อาจมีทั้งการปรับ “เพิ่ม” ปริมาณซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างน้อย 5 แสนล้านยูโรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (Pandemic Emergency Purchase Program) ขณะเดียวกันก็อาจมีการแถลงเรื่องความร่วมมือทางการคลังที่คาดว่าจะเป็นกลไกหลักเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในอนาคต
ต่อเนื่องในวันศุกร์ (5 มิ.ย.) ก็จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสหรัฐ (US Non-farm Payrolls) ที่คาดว่าจะลดลง 8 ล้านตำแหน่งจะส่งผลให้การว่างงานขยับขึ้นแตะระดับ 20% ที่คาดว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดในวิกฤตครั้งนี้และอนาคตอาจเริ่มฟื้นตัวกลับได้
ส่วนในฝั่งการเมืองก็น่าติดตามเป็นพิเศษ เนื่องจากมีทั้งความวุ่นวายจากการประท้วงทั่วสหรัฐ และความพยายามที่จะยกระดับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศในฮ่องกง
“อย่างไรก็ดี เรา “ไม่เห็น” สัญญาณอันตรายกับตลาดการเงิน ทั้งในมุมของนโยบายต่างประเทศ หรือทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ประเด็นหลักอาจอยู่ที่ปัญหาความเชื่อมั่นของเงินดอลลาร์ ที่ลดลงต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากทิศทางของดัชนีดอลลลาร์ (DXY) ในเดือนล่าสุดที่ปรับตัวลงมาตลอดทั้งจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน รวมไปถึงภาพสกุลเงินยูโร (EUR) ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ในสัปดาห์นี้จึงต้องระวังว่าถ้าตลาดมองบวกกับเงินยูโรมากขึ้น ก็อาจเห็นการอ่อนค่าของดอลลาร์ต่อไปอีก ซึ่งประเด็นดังกล่าวก็จะหนุนให้เงินบาทดูแข็งค่าตามไปด้วย” ดร.จิติพลกล่าว