ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังการจ้างงานดีเกินคาด

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (8/6) ที่ระดับ 31.50/52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (5/6) ที่ระดับ 31.44/45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือน พ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าการจ้างงานจะลดลง 8.33 ล้านตำแหน่ง นอกจากนี้ อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 13.3% ในเดือน  พ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.5% เมื่อเดือนที่แล้ว

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเษตรดิ่งลง 20.5 ล้านตำแหน่งในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 14.7% ซึ่งสูงกว่าระดับ 10.8% ซึ่งเป็นอัตราการว่างงานสูงสุดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การพุ่งขึ้นของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน พ.ค. ถือเป็นการทำสถิติการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในเดือนเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐในรอบ 81 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2482 โดยภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2,275,000 ตำแหน่ง ขณะที่การจ้างงานในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.43-31.51 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.43/31.45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (8/6) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1296/98 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (5/6) ที่ระดับ 1.1317/21 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ภายหลังสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคการผลิตในเดือน เม.ย.ดิ่งลง 25.8% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ อันเป็นผลจากการระบาดของโรคโควิด-19 ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตเดือน เม.ย. ออกมาย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลง 19.1% จากเดือน มี.ค.ที่ลดลง 15.0% โดยหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วยอดสั่งซื้อภาคการผลิตเดือน เม.ย. ทรุดตัวลง 36.6%

นอกจากนี้สกุลเงินยูโรยังถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานดังกล่าว ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1280-1.1315 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.300/02 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (8/6) เปิดตลาดที่ระดับ 109.49/51 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (5/6) ที่ระดับ 109.23/26 เยน/ดอลลาร์ ภายหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินปลอดภัยอย่างเยน และหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.37-109.62 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.46/47 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัคงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน พ.ค. (9/6), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. (10/6), คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (10/6), จำนวนผู้ขอรับสวัสดการว่างงานรายสัปดาห์ (11/6), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน พ.ค. (11/6), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน มิ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (12/6)


สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.3/+0.45 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -5.0/-2.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ