ค่าเงินบาท​แข็งค่า​ที่​ 30.95 บาท/ดอลลาร์​ หลังเฟดจ่อเข้าซื้อ​หุ้นกู้เอกชน​เพิ่ม​เติ​ม

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผย​ว่า​ ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้​ (16​ มิ.ย.)​ ที่ระดับ 30.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.09 บาทต่อดอลลาร์ โดย​กรอบเงินบาทวันนี้อยู่​ที่​ 30.85-31.05 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้​ ตลาดการเงินพลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk On) ในคืนที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด เปิดเผยแผนการใช้นโยบายทางการเงินเพิ่มเติม โดยจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชน (Secondary Market Corporate Credit Facility) และปล่อยกู้ตรง (Main Street Lending Program) ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.8% เหนือกว่าดัชนี Euro Stoxx 50 ของยุโรปที่ยังติดลบ 0.5% ขณะเดียวกันอัตรา​ผลตอบแทน​พันธบัตร​ (บอนด์ยีลด์)​ สหรัฐอายุ 10 ปี ก็ขยับขึ้นมาที่ระดับ 0.74% (บวก 4bps) ชี้ว่านักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยและกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง

อย่างไรก็ดี ประเด็นดังกล่าว กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆราว 0.4% โดยเยนญี่ปุ่นเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุด แม้ในช่วงจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แต่ตลาดเชื่อว่าระดับเงินเยนปัจจุบันยังไม่ได้เป็นจุดที่ BOJ จะต้องเข้ามาดูแล ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสกุลเงินผันผวนในกลุ่มสกุลเงินหลักก็ฟื้นตัวขึ้นราว 0.8%

สำหรับเงินบาท ในระยะสั้นเคลื่อนไหวตามทิศทางของการเปิดหรือปิดรับความเสี่ยงเป็นหลัก แม้จะเห็นนักลงทุนทั่วโลกเพิ่มการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และเลิกให้ความสนใจกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ จีน หรือฮ่องกงแล้ว แต่ก็ดูจะกังวลกับการระบาดของไวรัสรอบสองแทนที่

แต่ในระยะยาว เชื่อว่าจังหวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต่อจากนี้ คือประเด็นที่สำคัญที่สุด และมีความเป็นไปได้มากที่จะเห็นสกุลเงินเอเชียฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งถ้าการส่งออกและการท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาเป็นปกติ