ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.63) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) เปิดตลาดภาคเช้าปรับลดลงประมาณ 7-9 จุด โดยพบว่ากลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มหุ้นที่ปรับลดลงฉุดตลาดมากที่สุด โดยเฉพาะ 3 แบงก์ใหญ่ ได้แก่ BBL SCB และ KBANK ที่ราคาหุ้นปรับลดลงราว 5-6%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า SET Index เปิดตลาดติดลบประมาณ 9 จุด โดยสาเหตุมาจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับแรงกดดันจากข่าว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศสั่งแบงก์งดปันผลงวดระหว่างกาล และงดโครงการซื้อหุ้นคืน ส่งให้กองทุนหุ้นปันผล (High Yield Fund) จำเป็นต้องปรับน้ำหนักการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่มอื่นที่ให้ปันผลสูงใกล้เคียงกับธนาคาร เพื่อให้มีสภาพคล่องจ่ายนักลงทุนได้ต่อไป
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
“กองทุนที่เขารอรับปันผล เขาก็ต้องสวิชไปยังหุ้นกลุ่มอื่น (Sector Rotation) เช่น กลุ่มพลังงาน หรือกลุ่มไอซีที แต่เราคาดว่าเงินน่าจะไหลไปหากลุ่มพลังงานหนักกว่าเพราะโมเมนตัมธุรกิจดีกว่า” นายวิจิตรกล่าว
ขณะที่คำแนะนำลงทุน นายวิจิตรกล่าวว่า สำหรับผู้ที่ถือหุ้นธนาคารอยู่แนะนำให้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนบางส่วน เนื่องจากต้องยอมรับว่าจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นนั้น จะส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นแบงก์ในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงขาลง (Downside Risk) ของหุ้นธนาคารปัจจัยมีไม่มากนัก เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก แต่โอกาสที่จะปรับขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ยังยากเช่นกัน
“ความเสี่ยงฐานทุนแบงก์ไทยดีกว่าแบงก์เมืองนอกเยอะ แต่ ธปท.ซึ่งเป็นผู้คุมกฎต้องป้องกันความเสี่ยงมากๆ จึงอยากให้แบงก์รักษาฐานทุนไว้ก่อน ยังไม่ต้องจ่ายปันผล โดยเรามองว่าดัชนีเช้านี้ที่ปรับลดลงมา 9 จุด ถือว่าไม่เยอะมาก ต้องบอกว่าคำสั่งของ ธปท.เจ็บแต่จบ” นายวิจิตรกล่าว
- คอลัมน์ สามัญสำนึก: สุดทาง “พักหนี้” มีอะไร…รออยู่
- บทบรรณาธิการ: วิกฤตหนี้…ระเบิดเวลารอปะทุ