คลังปัดขยาย SSFX ถึงสิ้นปี ตลท.ชงต่อชอร์ตเซล 3 เดือน

ภป-กองทุนบำนาญ

คลังปิดฉากไม่ต่ออายุ “SSFX” หลังเปิดทางให้ลงทุนครบ 3 เดือน ยันกรอบเวลาเหมาะสมแล้ว ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯชง ก.ล.ต. เคาะต่ออายุมาตรการพยุงตลาดหุ้น “ชอร์ตเซล-ซีลลิ่ง/ฟลอร์” อีก 3 เดือน ชี้หลังเริ่มใช้มาตรการช่วงหุ้นดิ่งหนักมาถึงปัจจุบัน SET Index ผันผวนลดลง หนุนดัชนีบวกขึ้นมาแล้ว 93% “บล.เอเซีย พลัส” หนุนต่ออายุมาตรการคุมความผันผวน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คลังไม่มีนโยบายให้ต่ออายุมาตรการกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) ที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เพิ่มจากกองทุน SSF ปกติอีก 2 แสนบาท ซึ่งจะสิ้นสุด ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ออกไปถึงสิ้นปี 2563 ตามที่ภาคเอกชนตลาดทุนเสนอเข้ามา เนื่องจากเห็นว่าช่วงเวลา 3 เดือนที่เปิดให้ลงทุนได้นั้นมีความเหมาะสมแล้ว

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาขยายระยะเวลามาตรการ SSFX ออกไปอีก อย่างไรก็ดี ระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้เดิมก็ถือว่านานเพียงพอที่นักลงทุนจะสามารถตัดสินใจเข้าลงทุนได้

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจาก ตลท.ได้เปิดรับฟังความเห็นบริษัทสมาชิก เรื่องการขยายเวลาการปรับปรุงหลักเกณฑ์ราคาเสนอขายชอร์ต หลักเกณฑ์ราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (ceiling & floor) และหลักเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายสูงสุดในแต่ละวัน (daily price limit) ที่เป็นการลดอัตราราคาเสนอซื้อขายหลักทรัพย์สูงสุดและต่ำสุดลงจาก +/-30% เป็น +/-15% เป็นการชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ และได้ปิดรับฟังความเห็นไปเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากนำเสนอต่อคณะกรรมการ ตลท.มีมติเห็นชอบ ล่าสุดได้ยื่นขออนุญาตต่ออายุไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว โดยอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาของ ก.ล.ต.ว่าจะต่ออายุเกณฑ์ต่าง ๆ ออกไปอีก 3 เดือนหรือไม่ จากที่จะหมดอายุใน 30 มิ.ย.นี้

ทั้งนี้ หลังจากประกาศใช้มาตรการดังกล่าวพบว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนน้อยลง โดยวัดได้จากค่าความผันผวนรายวันที่ปัจจุบันลดลงมาใกล้เคียงระดับปกติที่ประมาณ 1 เท่ากว่า ๆ จากที่เคยเพิ่มขึ้นไปถึง 4-5 เท่าในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 2563 นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า อัตราผลตอบแทนจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ SET ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ -12% แต่หากเปรียบเทียบตั้งแต่ช่วงที่เริ่มเกิดวิกฤตโควิด-19 ในปลายเดือน ม.ค.จะพบว่า ขณะนี้ SET Index ปรับบวกขึ้นมาแล้ว 93% หรือเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ ทั้งความกังวลไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบ 2 ความผันผวนของตลาดหุ้นประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐ ที่ส่งผลกดดันต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม” นายศรพลกล่าว

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า หากพิจารณาอัตราผลตอบแทนของ SET Index ตั้งแต่จุดต่ำสุดที่ 969 จุด ในวันที่ 13 มี.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน (ณ 16 มิ.ย.) พบว่า SET Index ให้ผลตอบแทนเป็นบวกที่ 41.08% ซึ่งมาตรการประคองตลาดหุ้นที่ ตลท.ประกาศใช้ ถือว่าช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเกณฑ์ขายชอร์ต
ที่สามารถลดความผันผวนขาลงได้ค่อนข้างมาก สะท้อนได้จากก่อนใช้มาตรการที่การขายชอร์ตมีมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ 3,800 ล้านบาท แต่หลังใช้พบว่า มูลค่าธุรกรรมลดลงถึง 78% มาอยู่ที่ 840 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเริ่มทยอยยกเลิกมาตรการประคองตลาดหุ้นแล้ว ส่วนตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย ก็มีไต้หวันและเกาหลีใต้ที่กำลังพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือไม่

“ถ้าไม่ต่ออายุมาตรการต่าง ๆ เราคาดว่าความผันผวนจะสูงขึ้น โดยเฉพาะยามที่
ตลาดเป็นขาลง แม้จะขัดกับกลไกตลาด แต่ในยามที่ตลาดเปราะบางก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เพราะหากความเชื่อมั่นหายไปจะเรียกคืนได้ยาก”
นายชาญชัยกล่าว