ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,340-1,370 จุด หลังขาดปัจจัยใหม่ๆ ชี้นำตลาด คาดวันนี้การประชุม กนง. “คงอัตราดอกเบี้ย” ไว้ที่ 0.50% ต่อปีตามเดิม เพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจ-ผลกระทบจากการระบาด COVID-19 ในไตรมาส 2 และคืนนี้ IMF ประชุมเพื่อปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 63 หากมีมุมมอง “คาดการณ์แย่ลงกว่าเดิม” จะเป็นปัจจัยที่กดดันเซนติเมนต์การลงทุนในภาพรวม
บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันพุธที่ 24 มิ.ย.63 ว่า คาดเช้านี้ตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกข้างในกรอบระหว่าง 1,340-1,370 จุด หลังขาดปัจจัยใหม่ๆ ชี้นำทิศทางตลาด และ SET INDEX ยังไม่สามารถพลิกยืนเหนือ 1,365 จุดได้ ทำให้โมเมนตัมทางลงยังแข็งแรงกว่า โดยวันนี้มีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.การประชุมพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. 2.การปรับมุมมองเศรษฐกิจโลกของ IMF
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
สำหรับการประชุม กนง. ทางฝ่ายคาด “คงอัตราดอกเบี้ย” ไว้ที่ 0.50% ต่อปีตามเดิม เพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจและผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยและต่างประเทศเริ่มประกาศ Lockdown ซึ่งหากตัวเลขแย่กว่าคาดในการประชุมครั้งถัดไปในอนาคตอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง และการประชุมครั้งนี้เป็นรอบครึ่งปี 2563 ซึ่งมีโอกาสที่ทาง กนง. จะปรับมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอีกด้วย
ส่วนการปรับมุมมองเศรษฐกิจโลกของ IMF: คืนนี้ IMF จะมีการประชุมเพื่อปรับมุมมองคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 63 โดยหากมีมุมมอง “คาดการณ์แย่ลงกว่าเดิม” จะเป็นปัจจัยที่กดดันเซนติเมนต์การลงทุนในภาพรวม
คลายล็อคดาวน์เฟส 5
ด้าน ศบค. เตรียมประชุมพิจารณาคลาย Lockdown เฟสที่ 5 ศุกร์นี้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่จะพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ Lockdown ในกิจการส่วนที่เหลือ หลังประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ผับ-บาร์-คาราโอเกะ มีลุ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ ศบค.ได้กำหนดแนวทางคร่าวๆ ในการเปิดกิจการในเฟสที่ 5 เนื่องจากเป็นกิจกรรมและกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ด้านท่าที่ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงยืนยันว่าจำเป็นต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่วนมาตรการท่องเที่ยวขอให้รอไปก่อน