ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (7 ก.ค.) ที่ระดับ 31.04 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้คาดอยู่ที่ 30.90-31.10 บาทต่อดอลลาร์
โดยในช่วงคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินทั่วโลกสดใสต่อ ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐ และ Euro Stoxx 50 ของยุโรปปรับตัวขึ้นต่อถึง 1.6-1.7% แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) จะยังอยู่ในระดับต่ำ โดยยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีทรงตัวที่ระดับ 0.68% ขณะที่ยีลด์เยอรมัน -0.44% มีเพียงนักลงทุนฝั่งญี่ปุ่นที่เริ่มลดการลงทุนในบอนด์ลงบ้าง เห็นได้จากยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 10 ปีที่ขยับขึ้นแต่ระดับ 0.03% บวก 2bps
- เปิด 10 อันดับ สายงานราชการที่จะเกษียณอายุมากสุดในระยะสิบปี
- “ไชน่าทาวน์ห้วยขวาง” คลายมนต์ขลัง ร้านอาหารหมาล่าแห่ปิดกิจการ
- ธ.ก.ส. โอนเงิน “ไร่ละพัน” รอบที่ 8 เข้าบัญชีชาวนาอีกกว่า 1.5 หมื่นครัวเรือน
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจก็สอดรับกับการฟื้นตัวของตลาดทุน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตในสหรัฐ (ISM Non-Manufacturing PMI) ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 57.1จุด สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 45.4จุดอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจทุกที่กลับมาเปิดทำการในเดือนนี้ แทบทุกอุตสาหกรรมจึงมียอดคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนของตลาดเงินก็ยังเห็นภาพดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยมีสกุลเงินโครนนอร์เวย์ (NOK) และโครนาสวีเดน (SEK) เป็นสองสกุลเงินหลักที่ฟื้นตัวขึ้นมากที่สุด โดยนักลงทุนมีความกังวลกับการระบาดของไวรัสในทวีปอเมริกาที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนย้ายเงินออกจากดอลลาร์เนื่องจากที่กังวลกับนโยบายต่างประเทศที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนเพิ่มอำนาจต่อรองกับจีนด้วยการตั้งกฏการย้ายฐานการผลิต ผู้อพยพ และผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคเร็ว ๆ นี้
“ฝั่งของเงินบาทล่าสุดก็แข็งค่าขึ้นในช่วงวันหยุดตามสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ จุดที่น่าสนใจคือการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วทั้งเอเชียเริ่มจากจีน ซึ่งน่าจะส่งผลหนุนให้นักลงทุนให้ความสนใจกับการลงทุนและสกุลเงินในภูมิภาคนี้มากขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้” ดร.จิติพลกล่าว